ศูนย์ปราบหนี้ ตร. ช่วยไกล่เกลี่ยนายทุน ลดหนี้ ชาวนาบุกทำเนียบ มีดจี้คอ ร้องบิ๊กตู่

ศูนย์ปราบหนี้ ตร. ช่วยไกล่เกลี่ยนายทุน ลดหนี้ ชาวนาบุกทำเนียบ มีดจี้คอ ร้องบิ๊กตู่ ด้าน ตร.เผยผลงาน 8 เดือน กวาดล้างนายทุนเงินกู้ ยึดทรัพย์กว่า 500 ล้านบาท

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.สง.ก.ตร. ร่วมกันแถลงผลกวาดล้างนายทุนเงินกู้ที่ให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมาย เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือทำสัญญาเอารัดเอาเปรียบประชาชน การทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมาย หรือการกู้ยืมเงินที่มีลักษณะฉ้อโกงประชาชน

พล.ต.อ.ปิยะกล่าวว่า คดีแรกกรณีนายประเสริฐ อาดำ ชาวนาในพื้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้ไปร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลโดยใช้อาวุธมีดจ่อที่ลำคอแจ้งความประสงค์ขอพบนายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้กู้ยืมเงินจากนายทุน จำนวน 400,000 บาท แต่ถูกฟ้องร้องต่อศาลเรียกเงินคืน 2,300,000 บาท จึงไม่รู้จะพึ่งใครจึงมาก่อเหตุที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 ได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนได้ไปพูดคุยกับนายประเสริฐ จึงทราบปัญหาว่าได้กู้ยืมเงินจากนายทุนจริง โดยได้กู้ยืมเงินจากนายอุดม ใจเอื้อเฟื้อ ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ตั้งแต่ปี 2557 ครั้งละ 1-3 แสนบาท และได้ผ่อนดอกเบี้ยมานานแต่เงินต้นไม่ลดลง ประกอบกับต้นปีที่ผ่านมาได้มีคำฟ้องร้องของศาลมาให้ชดใช้หนี้ รวม 2.3 ล้านบาท จึงมาก่อเหตุดังกล่าว ตำรวจจึงได้ดำเนินการขอหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ ค.31/2564 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายอุดม พบสำเนาโฉนดที่ดิน 23 ฉบับ สัญญาเงินกู้พร้อมหนังสือมอบอำนาจ 16 ฉบับ สมุดจดบันทึกและสมุดบัญชีเงินกู้ อาวุธปืน 2 กระบอก ตู้เซฟ 1ตู้ สมุดจดเงินกู้ที่มีรายชื่อผู้กู้ 57 ราย จำนวนเงินประมาณ 22 ล้านบาท จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน และได้ประสานคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบ ประจำจังหวัดปทุมธานี เพื่อไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ ผลปรากฏว่านายอุดม ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความตามกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ. 2553 จากเดิมที่นายประเสริฐ ถูกฟ้องบังคับชำระหนี้จำนวน 2,348,475 บาท นายอุดม ยินยอมให้นายประเสริฐชำระหนี้ เพียงเงินต้น 300,000 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งได้ถอนฟ้องและคืนโฉนดที่ดินให้ ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงกันได้ หลังจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบโฉนดที่ดินที่เหลือ รวมทั้งเอกสารเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะติดตามพยานบุคคลอื่นๆ เข้ามาให้ถ้อยคำ หากพบว่ากระทำความผิดกฎหมาย จะดำเนินการต่อไป