พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.บุญเที่ยง สมศรี รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ 4 กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายคณิน หรือวิวิธชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 6 หมายจับ
สืบเนื่องมาจาก เมื่อประมาณวันที่ 22 มกราคม 2563 ผู้เสียหายพบว่า นายคณิน หรือ วิวิธชัยฯ (ผู้ต้องหา) ได้ประกาศขายปลามังกรผ่านโซเชียล ซึ่งปลาดังกล่าวเป็นปลาที่ผู้เสียหายสนใจ ผู้เสียหายจึงเดินทางไปที่ร้านดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในตลาดนัดจตุจักร กทม. เมื่อมาถึงที่ร้าน ทางผู้ต้องหาได้เข้ามาแสดงตนเป็นเจ้าของร้าน และพูดคุยกับผู้เสียหาย ก่อนจะตกลงซื้อขายปลามังกรจำนวน 2 ตัว และให้ผู้เสียหายชำระเงินเป็นจำนวน 50,000 บาท แต่เนื่องจากในขณะนั้นทางผู้เสียหายยังสร้างตู้ปลาเพื่อเลี้ยงปลามังกรไม่เสร็จเรียบร้อย จึงยังไม่ได้รับปลามังกรที่ซื้อไว้กลับไป
ภายหลังเมื่อตู้ปลาสร้างเสร็จ ผู้เสียหายจึงติดต่อไปยังผู้ต้องหา เพื่อต้องการรับปลามังกรที่ซื้อไว้กลับมา แต่ผู้ต้องหากลับบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมส่งปลามังกรมาให้ผู้เสียหาย อ้างว่ามีปัญหาการเคลื่อนย้าย อาจจะเสี่ยงติดโควิดได้ หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงได้พยายามติดต่อไปทางผู้ต้องหาอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อไม่ได้อีก จึงเดินทางไปที่ร้านดังกล่าว และพบว่า ผู้ต้องหาไม่ใช่เจ้าของร้านแต่อย่างใด เป็นเพียงลูกจ้างในร้าน หลังจากนั้น ผู้เสียหายจึงได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวอีก คือ
– เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2563 ผู้ต้องหาได้ขายปลามังกรที่ได้รับรางวัลมีใบประกาศ และถ้วยรางวัล จำนวน 2 ตัว ราคารวม ๑๔5,000 บาท ให้กับผู้เสียหาย ซึ่งทางผู้เสียหายได้ฝากให้ผู้ต้องหาเลี้ยงไว้ก่อน เนื่องจากกำลังก่อสร้างตู้ปลา แต่เมื่อตู้ปลาสร้างเสร็จ ผู้เสียหายได้ติดต่อไปยังผู้ต้องหา เพื่อต้องการรับปลามังกรที่ฝากเลี้ยงไว้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อผู้เสียหายเดินทางไปพบผู้ต้องหาที่ร้านดังกล่าว ผู้ต้องหาได้อ้างว่าได้นำปลาของผู้เสียหายฝากให้พี่ชายเลี้ยงไว้ แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูล กลับพบว่าปลามังกรของผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาแอบนำไปขายแล้ว ผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าเเจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
– เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2562 ผู้ต้องหาได้หลอกขายปลามังกร จำนวน 20 ตัว ราคารวม 2,000,000 บาท ให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าสามารถจัดส่งปลาให้ได้หลังจากนี้อีก ๑ เดือน แต่เมื่อครบกำหนด ผู้ต้องหากลับไม่ได้จัดส่งปลามาให้ผู้เสียหาย เมื่อติดต่อทวงถามไป ผู้ต้องหาได้ขอชดใช้ค่าเสียหายที่ไม่สามารถจัดส่งปลาให้ได้ โดยการออกเช็คเพื่อชำระหนี้แทน และเมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคาร กลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
ทั้งนี้ หมายจับของศาลแขวงพระนครเหนือ “พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค” ของผู้ต้องหานั้น เป็นการหลอกลวงผู้เสียหายในกลุ่ม BIGBIKE มูลค่าความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท และจากการตรวจสอบข้อมูลการกระทำความผิดยังพบอีกว่า ผู้ต้องหาจะลงประกาศหลอกขายนาฬิกาข้อมือ โดยเอารูปภาพเดิมๆ มาโพสต์ขาย
กองบังคับการปราบปราม จึงได้เร่งรัด ติดตาม สืบสวน ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากมีพฤติการณ์สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เป็นภัยต่อสังคม
กระทั่งวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๓ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา จึงได้ทำการจับกุมและนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนเองเคยเป็นเจ้าของร้านขายปลามังกรจริง แต่ธุรกิจไม่สามารถดำเนินการต่อได้ จึงเซ้งกิจการให้เพื่อนทำต่อ และเพื่อนได้จ้างให้ตนดูแลร้านให้ ตนจึงได้หลอกขาย ปลามังกรให้กับผู้เสียหาย
กองบังคับการปราบปราม ฝากประชาสัมพันธ์ประชาชน หากท่านใดถูกมิจฉาชีพหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ท่านสามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ตามพื้นที่ที่เกิดเหตุ