กองปราบรวบ อดีตพยาบาลสาวหลบหนีศาล คดีเผาเสี่ย ยื่นเอกสารว่าตนเองตาย หมายจะชุบตัว

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สาธิต สมานภาพ , พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, และ พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนง รอง ผกก.1 บก.ป.

ว่าที่ พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.กก.๑ บก.ป., ร.ต.ท.ธีรพงศ์ ตาบัวตูม รรท.รอง สว.(สอบสวน) กก.2ฯ ปรก.รอง สว.กก.๑ บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมจับกุม นางสาวกนกรัชต์ (สงวนนามสกุล) (ศิริกาญจน์ หรือหญิง ชื่อเดิม) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 272/2560 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2560 ในข้อกล่าวหา “ไม่มาศาลตามกำหนดนัดมีพฤติการณ์หลบหนี ในความเรื่องนี้ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น ลักทรัพย์ ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังสาเหตุการตาย ปลอมแปลงเอกสารราชการปลอม” จับกุมตัวได้ที่ โรงพยาบาลย่านนวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 นางเอมอรฯ ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.มีนบุรี ว่า นายสมมาศฯ (สามีของผู้เสียหาย) ได้หายตัวไป ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบข้อมูลจาก สภ.บางน้ำเปรี้ยว ว่าเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2558 มีการพบศพชายนิรนามตายเปลือยสภาพไหม้เกรียมอยู่ในพงหญ้า และเมื่อนำศพดังล่าวส่งตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ยืนยันว่า ผู้เสียชีวิต คือนายสมมาศฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเร่งสืบสวนติดตามผู้ลงมือ จนกระทั่งทราบว่า น.ส.ศิริกาญจน์ฯ (ผู้ต้องหา) เป็นผู้อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่จับกุมตัว น.ส.ศิริกาณจน์ฯ ได้ที่บ้านแฟนของผู้ต้องหา ซึ่งขณะจับกุมเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ที่ผู้ตายขับขี่ออกมาก่อนหายตัวไป จอดอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว

จากการสอบสวน น.ส.ศิริกาญจน์ฯ ผู้ต้องหาให้การว่า ในวันที่ 11 เมษายน ๒๕58 ตนเองได้นัดพบกับนายสมมาศฯ มาที่โรงเเรมแห่งหนึ่ง ขณะที่อยู่ในห้องนายสมมาศฯ ได้กินยาไวอากร้าเข้าไป หลังจากนั้นจึงเกิดอาการแน่นหน้าอกและช็อกหมดสติไป เมื่อจับชีพจรพบว่านายสมมาศฯ เสียชีวิตแล้ว ตนจึงเรียกพนักงานโรงแรมให้มาช่วยอุ้มนายสมมาศฯ ไปไว้ที่เบาะหลังรถ และอ้างว่าจะพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้นจึงได้ขับรถมาจนถึงย่านบางน้ำเปรี้ยว พบว่าเป็นถนนเปลี่ยวไม่มีผู้คน จึงตัดสินใจทิ้งศพนายสมมาศฯ ไว้ข้างทาง พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ซึ่งขณะที่คดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาล ผู้ต้องหาไม่ได้เดินทางมาตามนัดของศาล และพบว่ามีการทำเอกสารปลอมขึ้นมาเพื่อแสดงว่าผู้ต้องหาเสียชีวิตแล้ว ศาลจึงได้อนุมัติหมายจับ เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 กระทั่งวันที่ 10 มกราคม 2564เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล และมาทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ และทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา ก่อนนำตัวส่งศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่าตนเองไม่มีเจตนาจะหลบหนีศาล และเอกสารการตายเป็นการกระทำโดยพลการของบุคคลอื่น ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด