สืบ ตม.6 สกัดกั้นจับกุมคนลาว 20 คน หลบหนีเข้าเมือง

 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. โดย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.๖ ร่วมแถลงข่าว

สืบ ตม.6 สกัดกั้นจับกุมคนลาว ๒๐ คน ลักลอบเข้าเมืองผ่านนายหน้า เสี่ยงโควิดระบาดซ้ำ

ด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการกำชับให้เพิ่มความเข้มในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ บก.ตม.๖ โดย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบาย ผบ.ตร. อย่างเคร่งครัด และนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานด้านตรวจคนเข้าเมือง และความมั่นคงนั้น

กก.สส.บก.ตม.6 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภคยศ ทะนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.๖, นำโดย ร.ต.ท.วิสูตร ลือชา, ร.ต.ท.ภัทภูมิ จาตกานนท์ รอง สว.กก.สส.บก.ตม.6 พร้อมกำลัง

ได้ร่วมกันจับกุม คนต่างด้าวสัญชาติลาวจำนวน ๒๐ คน เนื่องด้วย กก.สส.บก.ตม.๖ ออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่  หลังสืบทราบจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งใดแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่เป็นจุดพักเพื่อเดินทางผ่านของแรงงานต่างด้าวในการเดินทางกลับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จนต่อมาได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการรถโดยสารรับจ้างสาธารณะ ว่าพบเห็นกลุ่มชายลักษณะคล้ายคนต่างด้าวรวมตัวนั่งรับปะทานอาหารอยู่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนด้านข้างสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารอาคารพาณิชย์

จากนั้นจึงได้ประสานขอสนธิกำลัง ร่วมกับ ตม.จว.สงขลา, สภ.หาดใหญ่ และ กก.๓ บก.ทท.๓ บช.ทท. เดินทางเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นกลุ่มคนต่างด้าวชาย สัญชาติลาว จำนวน ๒๐ คน

จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนต่างด้าวได้แสดงหนังสือเดินทางเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ปรากฏว่ามีการประทับตราอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด  จึงได้ควบคุมกลุ่มคนต่างด้าวดังกล่าวมายังที่ทำการ ตม.จว.สงขลา และประสานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่เพื่อคัดกรองเชื้อโควิด-๑๙ ตรวจสอบและดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้อง

สืบเนื่องจากการจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน ๒๐ คน ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ กก.สส.บก.ตม.๖  ได้สืบสวนขยายผลไปยังเส้นทางของขบวนการลักลอบนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งคนต่างด้าวหนึ่งในผู้ถูกจับได้ให้ข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์กับทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า พวกตนทั้งหมดเป็นแรงงานภาคธุรกิจประมงในประเทศมาเลเซีย แต่เนื่องจากเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ทำให้เจ้าของกิจการได้ทยอยเลิกจ้างแรงงานต่างด้าวและเป็นคนดำเนินการว่าจ้างนายหน้าทั้งฝั่งมาเลเซียและไทย เพื่อให้นำพาพวกตนข้ามมายังประเทศไทย โดยต้องการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการเดินทางกลับไปยัง สปป.ลาว ด้วยการนั่งเรือเล็กข้ามฟากแม่น้ำโก-ลก มายังฝั่ง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งมีรถยนต์ ๒ คันและรถกระบะ ๒ คัน คอยรอรับเพื่อนำคนต่างด้าวทั้งหมดมาส่งยังสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานี โดยมีนายหน้าเป็นผู้ดำเนินการซื้อตั๋วรถโดยสารให้เดินทางมายังสถานีขนส่งอำเภอหาดใหญ่ จนถูกจับกุมในที่สุด โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประมาณ ๕๓๐ ริงกิตมาเลเซีย

 ชุดปฏิบัติการ กก.สส.บก.ตม.๖ จึงได้ขยายผลการจับกุมไปยังพื้นที่จังหวัดปัตตานี และเก็บข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี ตามข้อมูลที่ได้รับจากคนต่างด้าวผู้ถูกจับกุม พบว่าข้อมูลที่ได้รับสอดคล้องกันกับภาพวงจรปิด และมีการนำพาคนต่างด้าวทั้ง ๒๐ รายมาส่งยังสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานีจริง ซึ่งมีร่วมขบวนการทั้งสิ้น ๔ คัน โดยสามารถยืนยันช่วงเวลาในการเดินทางตั้งแต่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มายัง สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี จากการตรวจสอบระบบเฝ้าตรวจป้ายทะเบียนยานพาหนะ ซึ่งพบว่ามีการแบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจนในการกระทำความผิด แสดงให้เห็นถึงการลักลอบนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นขบวนการ และการลงพื้นที่ขยายผล ชุดสืบสวนยังได้จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน ๒ ราย ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี จากการรับแจ้งจากนายสถานีขนส่งฯว่า พบคนมีลักษณะคล้ายคนต่างด้าวได้เข้ามาใช้บริการภายในสถานี  โดยผู้ถูกจับให้การว่าได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย และข้ามฟากมายัง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แต่อย่างไรก็ตามทั้ง ๒ คน ได้โดยสารรถโดยสารประจำทางมายังสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานีด้วยตนเอง ไม่ได้มีนายหน้าหรือบุคคลใดมารับ จากกรณีการจับกุมคนต่างด้าว ชุดจับกุมได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป

 ในห้วงเดือน ธ.ค.๒๕๖๓ ที่ผ่านมานั้น หน่วยงานในสังกัด บก.ตม.๖ ได้สกัดกั้นจับกุมการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการจับกุมมีดังนี้

 ตม.จว.นราธิวาส จับกุมหลบหนีเข้าเมือง ๑๐๑ ราย และนำพา, ช่วยเหลือฯ ๒ ราย

 ตม.จว.สตูล       จับกุมหลบหนีเข้าเมือง ๑๑   ราย

 ตม.จว.สงขลา    จับกุมหลบหนีเข้าเมือง ๒๖   ราย

 โดยการจับกุมทุกครั้งมีการขยายผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทราบถึงกระบวนการการนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขยายผลไปสู่การจับกุมขบวนการดังกล่าวและวางแนวทางในการป้องกันต่อไป

 สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ  และการกระทำความผิดในกฎหมายอื่น  การประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน   ที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน  ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใด ๆ  อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันอาจทำให้เกิดความเสียหาย  ต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ  กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507  ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร   กรุงเทพ ฯ  10120  หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178  หรือที่ www.immigration.go.th  จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง