กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. , พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ. .ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล. 1 กก.1 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุม นายวีรชน (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี สามารถตรวจยึดของกลาง ดังนี้
1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น COROLLA สีดำ หมายเลขทะเบียน ศข- 1319 กรุงเทพมหานคร เลขตัวรถ MR053ZEC207022647 จำนวน 1 คัน 2. แผ่นป้ายทะเบียน หมายเลข ศข- 1319 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น
พฤติการณ์การจับกุม กล่าวคือ นายวิเศษฯ ผู้ครอบครองและเป็นผู้ถือกรรมสิทฺธิ์รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น COROLLA สีดำ หมายเลขทะเบียน ศข- 1319 กรุงเทพมหานคร เลขตัวถัง MR053ZEC107064065 เลขเครื่อง 3ZZ4361837 ได้แจ้งว่า ตนได้รับใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร ส.ทล.6 กก.2 (เพชรบุรี) บก.ทล. แจ้งให้เสียค่าปรับในข้อหา “ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่จำกัดไว้ตามป้าย” ซึ่งในวันเวลาดังกล่าว ตนไม่ได้เดินทางไป จ.เพชรบุรี แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจรของตำรวจทางหลวงที่แจ้งมาให้ตนไปชำระค่าปรับในข้อหาดังกล่าวอีกหลายพื้นที่ ตนจึงได้ไปลงประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองลพบุรี ไว้เป็นหลักฐาน และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่นำหมายเลขทะเบียนรถยนต์ของตนไปติดและกระทำความผิดดังกล่าว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามสืบสวนจับกุมบุคคลที่ใช้รถยนต์คันดังกล่าว จนพบว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น COROLLA สีดำ หมายเลขทะเบียน ศข- 1319 กรุงเทพมหานคร เลขตัวถังรถ MR053ZEC207022647 ได้ขับผ่านกล้องตรวจจับความเร็วของ ส.ทล.1 กก.1 ที่บริเวณ กม.73-74 ถ.พหลโยธิน (ขาเข้า) ต.ชะแมบ อ.สนับทึบ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเบื้องต้นพบว่ารถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถยนต์ต้องสงสัยที่มีผู้แจ้งว่ารถของตนถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับรถยนต์ติดตามมาถึง บริเวณ กม.55 ถนนพหลโยธิน ขาเข้า(ทล.1) ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เรียกตรวจสอบรถยนต์ พบว่าผู้ขับขี่ คือ นายวีรชนฯ ผู้ต้องหา โดยรถยนต์คันดังกล่าวมีหมายเลขทะเบียน กท-4555 สงขลา
จากการสอบถามนายวีรชนฯ ให้การว่ารถคันดังกล่าวที่ตนขับนั้นเป็นของ นายเอก ซึ่งเป็นเพื่อนของตนนำมาฝากไว้ประมาณ 3 เดือนแล้ว และปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” ให้แก่ผู้ต้องหาทราบ
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”