รวบแล้ว “เสี่ยแพร” นายทุนเงินกู้โหด ควงบีบีกันบุกทวงหนี้พร้อมกับทำร้ายพีอาร์สาวบาดเจ็บอย่างโหดเหี้ยม โดยจับได้ภายในคอนโดที่ กรุงเทพฯ อยู่ระหว่างการควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่ขอนแก่น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.2563 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันเปิดเผยความึบหน้า คดี “เสี่ยแพร” นายทุนเงินกู้บุกทวงหนี้ น.ส.เอ สาวพีอาร์โดยใช้อาวุธปืนสั้นบีบีกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บหนักเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียม ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น
พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่ไปตามจับกุมตัว นายธเนศ เปล่งขำ อายุ 42 ปี หรือเสี่ยแพร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นในคดีดังกล่าว โดยที่ไม่รอให้เจ้าตัวเดินทางมามอบตัวตามที่มีการประสานมา เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและเป็นนโยบายของทางรัฐบาลในการปราบปรามนายทุนเงินกู้ที่ทำผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่นำหมายจับเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา สามารถจับกุมตัวเสี่ยแพร ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายในห้องพักของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างการนำตัวเสี่ยแพรกลับมาสอบสวนที่สภ.เมืองขอนแก่น
“คดีดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตรวจสอบพยาน หลักฐานต่างๆจนครบถ้วนสมบูรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายที่เตะฟุตบอลที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียมดังกล่าว และเห็นเหตุการณ์จนได้เข้าระงับเหตุ รวมถึงการช่วยเหลือคนเจ็บ และพาผู้เสียหายส่งรพ.ขอนแก่น กระทั่งผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวน สอบสวน และรวบรวมหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับจับกุมตัวได้ดังกล่าวในวันนี้ ในข้อหาในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ข้อหาให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200 ,000บาท และข้อหา เป็นผู้ทวงถามหนี้กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ใช้ความรุนแรง หรือกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายของลูกหนี้ ตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน500,000บาท แล้วก็ต้องสอบสวนขยายผลว่า มีบุคคลเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ รวมถึงการปล่อยเงินกู้นั้น ทำกันเป็นขบวนการหรือทำกันในรูปแบบแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นคณะพนักงานสอบสวนในคดีของน้องเอต้องทำการสอบสวนให้ชัดเจน เพราะไม่ว่าการทวงหนี้หรือเหตุใดๆก็ตาม จะทำร้ายร่างกายโหดร้ายเช่นนี้ไม่ได้”
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในทางคดีนั้นได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีลูกหนี้ที่ทำการกู้ยืมเสี่ยแพรอีก 5 ราย โดยได้กู้ยืมเป็นเงินหลักหมื่นบาท และคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลเพิ่มเติมในทุกๆด้าน หากพบบุคคลใดมีส่วนร่วมกระทำความผิดหรือหลักฐานเชื่อมโยงใครก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที