เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ฐานะรองโฆษกบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ร่วมแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นต่างทางการเมืองหลายพื้นที่
พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า จากการประกาศผู้ชุมนุมทราบว่าจะมีการชุมนุม 3 วันติดต่อกัน ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนี้บริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ท้องที่สน.พหลโยธิน ส่วนในวันที่ 28 พ.ย. ได้มีการเชิญชวนให้ไปชุมนุมบริเวณห้างอิมพิเรียลเวิลด์สำโรง เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.สำโรงเหนือ พร้อมทั้งมีการเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณแยกบางนา อยู่ในเขตรับผิดชอบสน.บางนา และในวันที่ 29 พ.ย. ได้มีการเชิญชวนให้ไปชุมนุมบริเวณห้างอิมพิเรียลลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว พื้นที่สน.โชคชัย รับผิดชอบ ทั้ง 3 จุด ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งการชุมนุมแต่อย่างใด สำหรับการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ได้มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไว้จำนวนชุดละ 3 กองร้อย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน 3 ผลัด และชุดกองร้อยน้ำหวาน 1 กองร้อย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุมบริเวณต่างๆ ทางบช.น.จะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดและมีตำรวจในเครื่องแบบออกตรวจตราบริเวณโดยรอบพื้นที่การชุมนุม หากพบบุคคลต้องสงสัยหรือพบสิ่งผิดปกติใดก็จะทำการตรวจค้น หากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามมาตรฐานสากลตามต่างประเทศเมื่อมีการชุมนุมตามกฎหมายจะมีการแจ้งตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัย ส่วนหากผู้ชุมนุมไม่ได้มีการแจ้งการชุมนุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่สามารถดำเนินการดูแลหรือไม่ ใช่ แต่หากไม่มีการแจ้งก็จะมีเจ้าที่ตำรวจคอยตรวจตราดูแลความเรียบร้อย ส่วนมีความกังวลหรือไม่ในการชุมนุมวันนี้นั้น อยากจะฝากเตือนผู้จัดการชุมนุมกรณีประกาศรับการ์ดอาสาโดยไม่เลือกที่มาที่ไปหลายๆที่อาจตะมีปัญหาขัดแย้งทะเลาะกันมาก่อน หรือมีปัญหาทะเลาะกันหน้างาน ถือเป็นข้อห่วงใยตำรวจ ส่วนกรณีเหตุปะทะพื้นที่สน.พหลโยธินออกหมายจับเพิ่มอีก 1 รายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน ยืนยันว่ามีความคืบหน้า ขอสงวนข้อมูลผู้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขอออกหมายจับมือขว้างระเบิด ส่วนความชัดเจนว่าเป็นคนที่แฝงเข้ามาในกลุ่มการ์ดราษฎร์นั้น สอบถามความชัดเจนแล้วแต่ก็ยังตอบตำรวจไม่ได้จากการดูภาพและมีความคลาดเคลื่อน
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ส่วนของการจราจรนั้น บริเวณห้าแยกลาดพร้าวจะมีการเปิดการจราจรตามปกติ ยกเว้นกลุ่มผู้ชุมนุมลงไปกีดขวางพื้นผิวการจราจรต้องปิดการจราจร เนื่องจากอาจทำให้กระทบกับถนนพหลโยธินทั้งขาเข้าตั้งแต่แยกรัชโยธินถึงห้าแยกลาดพร้าวและขาออกตั้งแต่แยกกำแพงเพชรที่ผ่านบริเวณดังกล่าว ส่วนบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตพื้นราบช่องทางคู่ขนานอาจตะเคลื่อนตัวไปไม่ได้กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมลงพื้นที่พื้นผิวการจราจร บริเวณทางข้ามห้าแยกลาดพร้าวใช้ได้ตามปกติ และเส้นทางที่อาจหลีกเลี่ยงใช้ทางยกระดับโทลล์เวย์ ส่วนถนนแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปใช้แทนบริเวณดังกล่าวคือถนนรัชดาภิเษก ถนนโชคชัย 4 ถนนสุทธิสาร และถนนกำแพงเพชร 2 รอบบริเวณรอบแยกจะสะดวกกว่า
ส่วนในวันที่ 28 พ.ย. กลุ่มพี่น้องประชาชนไปชุมนุมเคลื่อนตัวจากแยกสำโรงมาที่แยกบางนานั้น บริเวณบางนาพื้นราบจะไม่สามารถใช้การได้ ขอให้ใช้สะพานข้ามแยก ส่วนถนนสุขุมวิทขาเข้า-ขาออกต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางอื่น ตั้งแต่แยกอุดมสุขไปยังถนนศรีนครินทร์ไปออกถนนบางนา-ตราด ถึงแม้จะใช้การได้แต่อยากให้พี่น้องประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 พ.ย. ที่จะมีการชุมนุมบริเวณถนนลาดพร้าวอาจจะกระทบในส่วนของขาออกแต่ขาเข้ายังพอใช้การได้ แต่หากมีการวางแผนให้ไปใช้ถนนหัวหมาก ถนนประเสริฐมนูกิจ และถนนประดิษฐ์มนูธรรมแบะถนนรามอินทราจะสะดวกกว่า” รองผบช.น.ดูแลงานจราจร กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การที่มีการนัดการชุมนุมทั้ง 3 วันดังกล่าวขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมายพ.ร.บ.ชุมสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทราบเกี่ยวกับการชุมนุม วัตถุประสงค์ จำนวนคน ห้วงระยะเวลา สถานที่ และเน้นให้การชุมนุมสงบปราศจากอาวุธ ไม่กระทบสิทธิผู้อื่น อย่างไรก็ตาม จากการชุมนุมที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์ที่เกิดความไม่สงบเกิดขึ้น รวมถึงการใช้ป้ายต่างๆ ห้ามมีข้อความหมิ่นประมาท ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง การใช้รถติดตั้งอุปกรณ์ขยายเสียงต้องเป็นไปตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง การชุมนุมเป็นสิทธิ์ของผู้ชุมนุมแต้ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยหลักในการชุมนุมสาธารณะนั้น ผู้จัดการชุมนุมจะต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อมีการจำกัดพื้นที่ จำกัดการดูแลเรื่องของจำนวนคน จำกัดเวลาให้เป็นไปตามกรอบ แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้แจ้ง ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมาย แต่การแจ้งการชุมนุมจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานการชุมนุมแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ไม่ได้ปิดกั้นการชุมนุม ตรงกันข้ามเป็นการส่งเสริมแต่มีเงื่อนไขให้มีการแจ้งให้ทราบเท่านั้น” รองโฆษกตร. กล่าว
ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโพสต์ข้อความผ่านโซเซี่ยลมีเดียที่ได้เบี้ยเลี้ยงล่าช้านั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า โดยหลักการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมีสิทธิ์เบิกเบี้ยเลี้ยงตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยเลี้ยงที่ใช้ตามปกติ หรือเดินทางไปปฏิบัติราชการ มี 2 ส่วนคือ การยืมเงินล่วงหน้า และหรือเบิกเงินย้อนกลังปฏิบัติภารกิจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ไม่นิ่งนอนใจ ได้สั่งการผู้บัญชาการสำนักงบประมาณทำการตรวจสอบและให้ดำเนินการเบิกจ่ายให้ตรงเวลา พร้อมกับให้มีการชี้แจงให้ทราบอย่างละเอียด ไม่ใช่เป็นการล่าช้า แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนการเบิกจ่าย ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น ผบ.ตร. จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ฝากถึงพี่น้องตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อะไรที่เป็นสิทธิที่ทุกคนต้องได้รับผู้บังคับบัญชาไม่นิ่งนอนใจ พร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไขอย่างตรงไปตรงมา แต่หากมีความล่าช้าก็จะตรวจสอบเพื่อความกระจ่าง