วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ผบช.น. ได้กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่มราษฎร ที่นัดหมายจัดการชุมนุมในวันที่ 25 สิงหาคม บริเวณสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เขตดุสิตว่า จากการติดตามข้อมูลทางการข่าวจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีผู้ชุมนุมมาร่วมการชุมนุมจำนวนมากน้อยเท่าใด แต่ได้กำหนดจะใช้กำลังดูแลความสงบเรียบร้อยไปตามสถานการณ์จริง พร้อมยืนยันว่าการชุมนุมดังกล่าว ตำรวจยึดหลักปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งมีกำหนดรายละเอียดไว้ค่อนข้างชัดเจน เช่นว่า หากเป็นการชุมนุมในพื้นที่เขตพระราชฐานในระดับใด ต้องมีแผนการปฏิบัติอย่างไร ต้องมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมาย พร้อมกับยอมรับว่า ยังไม่ได้รับการประสานขออนุญาตจัดการชุมนุมจากทางแกนนำในขณะนี้ จึงไม่ได้ประสานกำหนดเงื่อนไขใดๆ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่างกับกลุ่มราษฎร ไปชุมนุมในพื้นที่ใกล้เคียง และเกรงว่าอาจเกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงเหมือนเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่าจะใช้อำนาจเต็มที่ในการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกัน
พร้อมกันนี้ยังได้ชี้แจงด้วยว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 ตำรวจได้พยายามไม่ได้ปล่อยปละละเลย และพยายามเข้าไประงับเหตุการณ์แล้ว โดยสังเกตได้ว่ามีรถตำรวจควบคุมฝูงชนที่นำไปใช้ระงับเหตุมีร่องรอยกระสุนปืนยิง ซึ่งเรื่องนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่รู้สึกเป็นกังวลที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการประกาศยกระดับการชุมนุม เนื่องจากตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร และตลอดในช่วงที่มีการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ก็มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ตำรวจพกพาอาวุธ ไปใช้ในช่วงที่มีการดูแลการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สรุปการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงปัจจุบัน โดยพบว่ามีการดำเนินคดีไปแล้ว 107 คดี ส่งให้อัยการพิจารณาไปแล้ว 24 สำนวน และในสัปดาห์นี้จะส่งให้อัยการพิจารณาอีก 9 สำนวน ส่วนเรื่องการออกหมายเรียกหรือหมายจับ แกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 17 และ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ