ทดลองการตั้งจุดตรวจ ตามแนวทางของ ผบ.ตร.เน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีมาตรฐานในการปฏิบัติ” ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายให้แก่ข้าราชการตำรวจระดับนายพลตำรวจทั่ว ประเทศ จำนวน 496 นาย เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2563 ที่ผ่านมา โดยให้ระงับการตั้งจุดตรวจไว้ก่อน เพื่อปรับปรุงแนวทางการ ปฏิบัติให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีมาตรฐานสากลในการปฏิบัติ นั้น
วันนี้ (4 พ.ย.2563) เวลา 22.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภัคพงศ์พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ได้เดินทาง มาตรวจการตั้งจุดตรวจทดลอง โดยมอบหมายให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 มี พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ควบคุมการปฏิบัติ โดยการตั้งจุดตรวจทดลองวันนี้จะเป็นการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ของ สน.ทองหล่อ ทำการตั้งจุด ตรวจบริเวณหน้าสถานีตำรวจ ซึ่งมีแนวทางการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
1. หลักการและแนวทางในการตั้งจุดตรวจ
1.1 การตั้งจุดตรวจต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ระดับ ผบก.ขึ้นไป
1.2 การตั้งจุดตรวจต้องมีแผนการปฏิบัติที่ขัดเจน
1.3 จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องมีป่ายแสดงถึงมาตรฐานการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตั้งไว้ตรงบริเวณใกล้โต๊ะตรวจวัดฯ ในลักษณะที่ผู้รับการตรวจวัดฯ มองเห็นได้ชัดเจน
1.4 การกำหนดสถานที่ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ต้องกำหนดมาจาก
(1) ข้อมูลผู้กระทำความผิดเมาแล้วขับในเขตพื้นที่
(2) สถิติการเกิดอุบัติเหตุ สาเหตุมาจากเมาแล้วขับ
(3) สภาพการจราจร ความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสำคัญ
(4) ความสะดวก มีที่จอดยานพาหนะของผู้ขับขี่ มีไฟฟ้าสำหรับใช้ที่จุดตรวจฯ เช่น สำหรับกล้องวงจรปิด สัญญาณไฟวับวาบ และเครื่องพิมพ์ผลการตรวจ เป็นต้น
1.5 จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องมีแผงกั้นที่มีเครื่องหมายการจราจรว่า “หยุดตรวจ” โดยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่จุดตรวจ และในเวลากลางคืนจะต้องมีแสงไฟส่องสว่างให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตรและก่อนถึงจุดตรวจให้มีแผ่นป้ายแสดงยศ ชื่อ นามสกุล และตำแหน่ง ของหัวหน้าต่านตรวจ หรือจุดตรวจดังกล่าว
1.6 การสื่อสารกับประชาชนในการบังคับใช้กฎหมาย ต้องมีการอธิบายข้อกฎหมายให้ผู้กระทำผิดเข้าใจ ข้อกล่าวหา โดยใช้กิริยาวาจาที่สุภาพ
1.7 การตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้ปฏิบัติตามมาตรการการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจและจุดสกัด ตามที่ ตร.ได้เคยสั่งการไว้อย่างเคร่งครัด
2. การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้
2.1 บันทึกข้อมูลการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามแผนการปฏิบัติ ลงในระบบการจัดทำแผนการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร (Police Traffic Checkpoint Control)
2.2 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ทุกนาย บันทึกการปฏิบัติหน้าที่ด้วยกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหว เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการปฏิบัติหน้าที่ และเพื่อยืนยันหลักความโปร่งใสการตรวจสอบได้
2.3 การตรวจวัดแอลกอฮอล์ ให้มีการตรวจเบื้องต้นและแบบยืนยันผล และต้องบันทึกการตรวจทั้งสองแบบด้วยกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหว แบบดิจิตอลชนิดใส่ซิมเน็ต เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบได้แบบ real time
3. แนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกันการทุจริต
3.1 จัดโต๊ะสำหรับตรวจวัดแอลกอฮอล์แบบยืนยันผลให้มีแสงสว่างมากพอ เป็นสถานที่เปิดเผย ป้องกันความเคลือบแคลงสงสัยจากประชาชน
3.2 มีป้ายไว้ตรงบริเวณจุดตรวจวัดฯ มีข้อความว่า “จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ สน./สภ… มีการ
บันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบดิจิตอลไว้เป็นหลักฐาน เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นมาตรฐานสากล”
3.3 เมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติแล้ว ให้หัวหน้าจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ รายงานผลการปฏิบัติเป็นลาย
ลักษณ์อักษรเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
3.4 ให้หัวหน้าสถานีตรวจสอบข้อมูลการตรวจที่พิมพ์จากเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตามข้อ 3.3 หาก
พบข้อมูลผิดปกติ ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบต่อไป
3.5 ให้หัวหน้าสถานีตำรวจจัดทำระบบจัดเก็บไฟล์ภาพเคลื่อนไหวแบบดิจิตอลการตรวจวัดแอลกอฮอล์
เพื่อป้องกันการร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจวัดฯ ในภายหลัง
3.6 จัดให้มีแผ่นป้ายแสดงข้อความว่า “หากพบเจ้าหน้าที่ทุจริต หรือประพฤติมิชอบให้แจ้งผู้บังคับ
การ โทร.(ให้ใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือของ ผบก.ไว้) หรือ แจ้งร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ สายด่วน หมายเลข 1599″ ข้อความดังกล่าวข้างต้นให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 15 เมตร
เมื่อคณะได้ทำการตรวจสอบการตั้งจุดตรวจทดลองในครั้งนี้แล้ว จะทำการพิจารณาเพื่อสรุปข้อมูลว่าการ
ตั้งจุดตรวจดังกล่าว เป็นไปตามแนวทางของ ผบ.ตร.ที่ได้มอบนโยบายไว้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นไปตามแนวทาง จะได้นำเสนอ เพื่อกำหนดเป็นแนวทางในการตั้งจุดตรวจ เพื่อให้ทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติ