กองปราบรวบวัยรุ่นเจ้าถิ่น เรียกเก็บค่าคุ้มครอง รุมทำร้ายสองสามี-ภรรยา

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.๕ บก.ป.,

          เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.ยุทธนา สงกระสันต์ รอง สว.กก.5 บก.ป., ส.ต.ท.ณัฐพงษ์ จันทร์ทอง, ส.ต.ท.สิทธิชัย ทวีโภค และ ส.ต.ท.ณัฐดนัย ภาลา ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายคุณาธิป (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย และได้รับอันตรายสาหัส” ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 955/2561 ลงวันที่  20 ธันวาคม 2561

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณ 23.00 น. นายนันทวัฒน์ฯ และ น.ส.กิตติมาฯ (ผู้เสียหายสองสามีภรรยา) ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายของชำอยู่บริเวณศูนย์การค้าย่านนวนคร ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นในซอยไทยธานี 43 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งใกล้กับร้านขายของชำ เข้ามาข่มขู่เก็บค่าคุ้มครอง แต่ผู้เสียหายทั้งสองไม่ยอมจ่าย กลุ่มวัยรุ่นจึงได้ใช้อาวุธปืนอัดลม (บีบี-กัน) ยิง น.ส.กิตติมาฯ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ น.ส.กิตติมาฯ จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว

          ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณ 19.30 น. กลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นดังกล่าวประมาณ 20 คน ได้ยกพวกมาที่ร้านขายของชำอีกครั้ง และเรียกให้ผู้เสียหายทั้งสองออกมาพูดคุย โดยบังคับขู่เข็ญให้ผู้เสียหายไปถอนแจ้งความ แต่ผู้เสียหายปฏิเสธ ไม่ยอมถอนแจ้งความ นายคุณาธิปฯ (ผู้ต้องหา) พร้อมพวก จึงได้เข้ารุมทำร้ายร่างกายนายนันทวัฒน์ฯ พร้อมทั้งใช้ไม้หน้าสามตีที่บริเวณศีรษะของนายนันทวัฒน์ฯ จำนวนหลายครั้ง เป็นเหตุให้ศีรษะแตก ซึ่ง น.ส.กิตติมาฯ ได้เข้ามาห้ามปราม แต่กลับถูกรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส (นิ้วมือหัก) หลังจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นจึงได้แยกย้ายพากันหลบหนีไป พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหากับพวก

          จนกระทั่งวันที่ 25 ตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพค้าขายและพักอาศัยอยู่ที่บริเวณ หมู่ 4 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและทำการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด