สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงรายชื่อแกนนำและผู้ชุมนุม ที่ถูกจับกุม ระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2563 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง และบริเวณทำเนียบรัฐบาล วานนี้ มีทั้งหมด 22 ราย
ระดับแกนนำผู้ชุมนุม 4 คน ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ประกอบด้วย นายพริษฐ์ หรือ แพนกวิ้น ชิวารักษ์ ถูกจับกุมตามหมายจับศาลธัญบุรี จ. 336/63 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2563 ความผิดฐาน “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, นายอานนท์ หรือทนายอานนท์ นำภา ถูกจับกุมตามหมายจับศาลเชียงใหม่ จ. 519/2563 ลงวันที่ 1 กันยายน 2563 ความผิดฐาน “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, นายประสิทธิ์ หรือ เจมส์ ครุธาโรจน์ ถูกจับกุมตามหมายจับศาลเชียงใหม่ จ. 521/2563 ลงวันที่ 1 กันยายน 2563 ความผิดฐาน “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, นางสาวปนัสยา หรือ รุ้ง สิทธิจิราวัฒนกุล ถูกจับกุมตามหมายจับศาลธัญบุรี จ. 323/2563 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2563 ความผิดฐาน “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116
ทั้งนี้ ในรายชื่อผู้ถูกควบคุมตัว ยังไม่มีชื่อนายภานุพงษ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จะมีการเปิดกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง หรือ กอร.ฉ.โดยมี พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งจะมีการเชิญหน่วยงานร่วมปฏิบัติเข้าหารือแนวทางปฏิบัติ พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมมั่วสุมเกิน 5 คน ที่ไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง สามารถทำได้ พร้อมระบุว่า ขณะนี้ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ยังคงบังคับใช้เฉพาะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่หากสถานการณ์ลุกลาม ไปยังจังหวัดอื่น ๆ ก็อาจมีการพิจารณาประกาศเพิ่ม
ส่วนผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัว ฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ประกอบด้วย นายชาติชาย แจ่มจันทร์, นายศักดา อุประ, นายเจษฎา จอกโคกสูง, นายพนธกร พวงบุบผา, นายวโรตม์ เทศทอง, นายเจษฎา พงษ์วันนา, นายวิชัย โรคน้อย, นายสัมฤทธิ์ นาคสุทธิ, นายโชคชัย โรจนชาญปรีชา, นายปารย์พิรัย์ บุญญาธนาภูวเดช, นายเริงชัย บัววงศ์, นายสงิหา ดลสุข, นายโสภา พรมกสิกร, นายเดือน คงยอด, นายสมประสงค์ เปาอินทร์, นายวันชัย สิงห์สวัสดิ์, ว่าที่ ร.ต.รุ่งโรจน์ ครองสินไชโย และนายไชญะภัณฑ์ พันทรศิริมาส ซึ่งหลังจากนี้หากพบผู้ใดกระทำความผิด หรือมีหมายจับ ก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
“ส่วนคำสั่งช่วยราชการข้าราชการ 3 ตำรวจ ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการ เพื่อสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย มีการปฏิบัติตามแผนรักษาความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ส่วนจะต้องมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่านี้ต้องรับผิดชอบหรือไม่ หากพบข้อบกพร่องหลังจากนี้ ก็ต้องดำเนินการ”