กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน, พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.๓ บก.ป., พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล, พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.๓ บก.ป. และ พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.๔ บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.๓ บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการ 5 กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.จารุดา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังต้องการตัว รวม 4 หมาย ดังนี้
1. หมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ จ.112/๒๕63 ลง 8 เม.ย.63 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” 2. หมายจับศาลแขวงเวียงป่าเป้า ที่ จ.15/2563 ลง 28 เม.ย.63 ซึ่งต้องหาว่า “ฉ้อโกง” 3. หมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ 110/2563 ลง 13 มี.ค.63 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณา หรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปหรือโดยการแพร่ข่าวด้วยวิธีใด” 4. หมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ 210/2563 ลง 12 พ.ค.63 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณา หรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปหรือโดยการแพร่ข่าวด้วยวิธีใด”
พฤติการณ์กล่าวคือ เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.จารุดาฯ (ผู้ต้องหา) ที่ได้ร่วมกับน้องสาวซึ่งเป็นท้าวแชร์หลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยใช้เพจที่มีชื่อว่า Two Hand Shop หลอกให้ผู้เสียหายลงทุนลูกปัดสี คัดแยกลาย คัดแยกสีลูกปัด โดยให้ลงทุนค่าอุปกรณ์ 800 บาท หากทำเสร็จจะคืนเงินค่าอุปกรณ์ให้ และจะจ่ายค่าแรงหรือกำไรให้อีก 300 บาท และยังมีการเชิญชวนให้ลงทุนนับแยกสีห่วง โดยให้ลงทุนค่าอุปกรณ์ 1,000 บาท โดยจะได้ค่าแรงรอบละ 650 บาท ซึ่งทางผู้ต้องหามีการส่งเอกสารทะเบียนพาณิชย์มาให้ผู้เสียหายดู จึงทำให้ผู้เสียหายมั่นใจ และหลงเชื่อลงทุน ซึ่งในช่วงแรกผู้ต้องหาได้จ่ายค่าตอบแทนจริงตามที่ได้โฆษณาไว้ แต่เมื่อลงทุนเพิ่มอีกครั้งต่อไป ผู้ต้องหากลับจ่ายค่าแรงไม่ตรงตามที่ตกลง และจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกจำนวนกว่าร้อยราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
จนกระทั่งวันที่ 8 ก.ค.63 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า น.ส.จารุดาฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 13 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อพบ น.ส.จารุดาฯ จึงได้เข้าจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จว.ศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ลิงค์ที่เคยเป็นข่าว http://addnewsphitsanulok.com/add2019/?p=8661
ข้อเตือนภัย กองปราบขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนพึงระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ ที่หลอกให้ลงทุนตาม Social Media ต่างๆ ซึ่งมักจะมีกลโกงแอบแฝงอยู่ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”