![](http://www.policetv.tv/wp-content/uploads/2020/04/S__116563976.jpg)
วันนี้ 29 เมษายน 2563 พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการบังคับใช้กฎหมายในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายหลังจากที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 นั้น
![](http://www.policetv.tv/wp-content/uploads/2020/04/S__116563979.jpg)
พลตำรวจโท ปิยะๆ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหาร สูงสุด ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผอ.ศปม.) และ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำว่าถือเป็นภารกิจสำคัญของฝ่ายความมั่นคงและสำนักงานตำรวจแห่ชาติ ที่จะต้องร่วมสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อ COVD-19 โตยได้กำหนดเป็น มาตรการสำคัญของฝ่ายความมั่นคง จำนวน ๓ เรื่องหลักๆ ประกอบด้วย
- สายตรวจร่วม ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงจะปรับการปฏิบัติ โดยเปลี่ยนจากการ ตั้งรับ เป็น รุกเข้าสู่ ปัญหา โดยตำรวจจะร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จังหวัด ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร สาธารณสุข และ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีชุดปฏิบัติการร่วมในลักษณะ ชุดเคลื่อนที่เร็ว หรือ ชุดปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ ตามคำสั่งและประกาศที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าไปดำเนินการในกรณีต่างๆ ใน ๔ แนวทาง คือ
- การสุ่มตรวจสอบการกักกันแบบ Home Quarantine
- การเข้าตรวจสถานที่ ร้านสถานประกอบการ ที่ได้รับการผ่อนคลายการบังคับใช้ บางมาตรการ ว่าสามารถปฏิบัติได้ถูกต้องตามสุขลักษณะ ตลอดจนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ หรือศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019โควิด -19) หรือไม่
- การเข้าไปตรวจสอบและจับกุมการมั่วสุมรวมตัวกันที่อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
- การร่วมปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจเคอร์ฟิว ในเวลา ๒๐๐ น. ถึง ๐๔.๐๐ น. ของวันรุ่งขึ้น
2. เข้มงวดการหลบหนีเข้าประเทศ โดยสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการ ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มความ เข้มขันของมาตรการตรวจสอบผู้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศผ่านทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อลดจำนวน ผู้เดินทางที่ไม่ผ่านการคัดกรอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานต่างด้าว รวมถึงการให้การสนับสนุนมาตรการ State Quarantine และ Local Quarantine ของรัฐบาลในทุกจังหวัด
3. บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง จากสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลต่อแนวโน้มของการเกิดอาชญากรรม จึงได้กำชับไปยังทุกหน่วยให้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย อย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เช่น ความผิดเกี่ยวกับ ทรัพย์ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่า กฎหมายกำหนด การทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย บ่อนการพนันและยาเสพติด รวมไปถึงอาชญากรรมที่เป็น การซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อนในปัจจุบัน เช่น ความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายหน้ากากอนามัยและ เวชภัณฑ์เกินราคา การเผยแพร่หรือส่งต่อข่าวปลอมในลักษณะ Fake Neพs การฝ้าฝืนประกาศ ข้อกำหนดของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อๆ หรือการฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามออกนอกเคหสถานในห้วง เวลาที่กำหนด หรือ เคอร์ฟิว เป็นต้น
![](http://www.policetv.tv/wp-content/uploads/2020/04/S__116563981.jpg)
พลตำรวจโท ปิยะฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ขอฝากมายังพี่น้องประชาชนทุกท่านได้โปรดเข้าใจและให้ความร่วมมือ ในการปฏิบัติตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ ประเทศไทยสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะยังคงคุมเข้ม และเข้มงวดมาตรการต่างๆ ทั้งในด้านสาธารณสุข การเดินทาง และอาชญากรรมเพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับมารุนแรงขึ้นใหม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้คำมั่นว่า เราจะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด”