กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง, พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.บุญเที่ยง สมศรี รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวรุตม์ หรือนายตั้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 40/2563 ลงวันที่ 31 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2563 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
โดยจับกุมได้หน้าร้านกาแฟ ภายในมหาวิทยาลัยย่านบางเขน กรุงเทพฯ พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้เสียหายถูกคนร้ายโทรศัพท์แอบอ้างว่าเป็นหัวหน้าวงดนตรีที่ผู้เสียหายจ้างมาเล่นในงานบวช หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าจ้าง จำนวน 27,500 บาท เข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ต่อมาผู้เสียหายทราบว่าตนเองถูกหลอก จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. และ สภ.บำเหน็จณรงค์ ร่วมกันสืบสวน ทราบว่า นายวรุตม์ ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมหลอกลวงในลักษณะแบบนี้เรื่อยมา โดยจะโทรศัพท์อ้างเป็นเจ้าของโต๊ะจีน, เจ้าของเครื่องดนตรี ฯลฯ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กับผู้ต้องหา และจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวดำเนินคดีมาแล้วเมื่อ ปี ๒๕๖๒ ในพื้นที่ สภ.ชัยพฤกษ์ หลังจากร่วมกับเพื่อนหลอกเก็บเงินผู้เสียหายที่ร้านอาหารทะเล โดยอ้างว่ามาเก็บเงินค่าน้ำแข็ง
นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมในการหลอกเงินจากผู้เสียหายที่กำลังประกาศรับสมัครงาน โดยผู้ต้องหาจะใช้เฟซบุ๊คในการติดต่อมาสมัครงาน และหลอกว่า ตนเองทำงานด้านที่ผู้เสียหายเปิดรับสมัครได้ แต่ตกงานมานาน ไม่มีรายได้ ไม่มีค่ารถมาสมัครงาน และจะออกอุบายหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินและเติมเงินมือถือให้กับผู้ต้องหาเพื่อใช้ในการเดินทางมาสมัครงาน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อหรือเกิดความสงสาร โอนเงินและเติมเงินมือถือให้กับผู้ต้องหา ผู้ต้องหาจะตัดการติดต่อกับผู้เสียหายทันที
จนกระทั่งวันที่ 10 เม.ย.2563 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. และ สภ.บำเหน็จณรงค์ สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา อยู่บริเวณหน้าร้านกาแฟ ภายในมหาวิทยาลัยย่านบางเขน กรุงเทพฯ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาอ่านดูจนเป็นที่พอใจ และนำตัวผู้ต้องหา ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าในกรณีของ สภ.บำเหน็จณรงค์ ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ไปหลอกผู้เสียหายจริง โดยได้ร่วมวางแผนกับนายสิงห์ณรงค์ (ไม่ทราบนามสกุล) โดยตนเองเป็นผู้โทรศัพท์หลอกผู้เสียหายให้โอนเงินมาบัญชีธนาคารของตน ซึ่งเคยถูกจับกุมดำเนินคดีที่ สภ.ชัยพฤกษ์ มาก่อน ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาหลอกเงินจากผู้เสียหายที่ประกาศรับสมัครงาน ผู้ต้องหารับว่าทำเองคนเดียว และอ้างว่าได้โอนเงินคืนผู้เสียหายบางรายแล้ว