ภายใต้การอำนวยการสั่งการโดยภายใต้การอำนวยการสั่งการโดย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ต.ธนพล ศรีโสภา รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐุ์ ผบก.รน.,พ.ต.อ.ราม รสหอม ผกก.4 บก.รน.,พ.ต.อ.วัลลพ พวงผกา ผกก.5 บก.รน.,พ.ต.ท.อนุชิต หลักโลก รอง ผกก.5 บก.รน. ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าวที่ 1 นำโดย พ.ต.ท.สัญญา พุ่มโพธิ์ทอง ต้นปืน(สบ3) กรต.บก.รน./หน.ชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าวที่ 1 และ พ.ต.ต.กิตติพงศ์ พึ่งชมภู สว.ส.รน.2 กก.10 บก.รน./รอง หน.ชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าวที่ 1 ประสานการปฏิบัติกับ เจ้าหน้าที่ชุด ศปสน.ตร. ประกอบด้วย ภายใต้อำนวยการสั่งการโดย พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล รอง ผกก.6 บก.รน. ,พ.ต.ท.ชรัญชน์เชษฐ์ พุทธิรานนท์ รอง ผกก.2 บก.รน.,พ.ต.ท.อนุรักษ์ ปริญญาสถิรกุล รอง ผกก.9 บก.รน.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.รน.1 กก.5 บก.รน. ประกอบด้วย ภายใต้อำนวยการสั่งการโดย พ.ต.อ.วัลลภ พวงผกา ผกก.5 บก.รน.,พ.ต.ท.อนุชิต หลักโลก รอง ผกก.5 บก.รน. ได้สั่งการให้พ.ต.ท.ทศพล มนทสิทธิ์ สว.ส.รน.1 กก.5 บก.รน.,ร.ต.อ.เทพรัตน์ ถมฉิมพลี รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน. กก.๕ บก.รน., ร.ต.อ.ธิติพนธ์ ณ จันตา รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน. กก.๕ บก.รน., ด.ต.ประสิทธิ์ เลิศยะโส ผบ.หมู่ ส.รน.๑ กก.๕ บก.รน., ส.ต.อ.ศักนรินทร์ ชัยชาญรัมย์ ผบ.หมู่ ส.รน.๑ กก.๕ บก.รน. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา ประกอบด้วย ภายใต้อำนวยการสั่งการโดย พ.ต.อ.คิตติสัณห์ ชะนะ ผกก.สภ.บางปะกง,พ.ต.ท.ชำนาญ โชติประดิษฐ์ รอง ผกก.ป.สภ.บางปะกง,พ.ต.ท.คมสัน มีภักดี รอง ผกก.สส.สภ.บางปะกง ,พ.ต.ท.ชินพัฒน์ พุฒเมตตา สวป.สภ.บางปะกง ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สมคิด พลมั่น สวป.สภ.บางปะกง , ร.ต.อ.วินทร์ทัย ภูริวัฒน์ธานนท์ รอง สวป.สภ.บางปะกง , ร.ต.อ.สุทัศ จิตรชอบ ใจ รอง สวป.สภ.บางปะกง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ประกอบด้วย ภายใต้อำนวยการสั่งการโดย พ.ต.อ.คิตติสัณห์ ชะนะ ผกก.สภ.บางปะกง,พ.ต.ท.ชำนาญ โชติประดิษฐ์ รอง ผกก.ป.สภ.บางปะกง,พ.ต.ท.คมสัน มีภักดี รอง ผกก.สส.สภ.บางปะกง ,พ.ต.ท.ชินพัฒน์ พุฒเมตตา สวป.สภ.บางปะกง ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สมคิด พลมั่น สวป.สภ.บางปะกง , ร.ต.อ.วินทร์ทัย ภูริวัฒน์ธานนท์ รอง สวป.สภ.บางปะกง , ร.ต.อ.สุทัศ จิตรชอบใจ รอง สวป.สภ.บางปะกง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตามรายชื่อท้ายบันทึกนี้ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา รวม 1 คน คือ นายขันลอง แฝงศักดิ์ดา อายุ 48 ปี ที่อยู่ 5/1 หมู่ 5 ต.ดอนเมือง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ตั้งข้อกล่าวหา ”ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืน หรือรับของโจร”
พฤติการณ์ในการจับกุม ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 642/2562 ลงวันที่ 12 พ.ย. 62 ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมสินค้าทางน้ำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปสน.ตร.) และคำสั่งกองบังคับการตำรวจน้ำที่ 41/2563 ลงวันที่ 28 มกราคม 63 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่สืบสวนหาข่าวและป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ชุดปฏิบัติการสืบสวนที่ 1 นำโดย พ.ต.ท.สัญญา พุ่มโพธิ์ทอง ต้นปืน(สบ3) กรต.บก.รน./หน.ชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าวที่ 1 รับแจ้งจากสายลับ(ขอปิดนาม) ว่าจะมีการนำรถบรรทุกมาขนข้าวสารจากเรือที่ลักลอบขโมยมาจากเรือที่จะส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ เพื่อนำไปจำหน่าย จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ และสั่งการดำเนินการจับกุมให้เกิดผลสำเร็จ จากนั้นจึงได้ประชุมวางแผนร่วมกับชุด ศปสน.ตร.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. พบรถบรรทุก 6 ล้อ เลขทะเบียนตรงตามที่สายลับแจ้ง วิ่งเข้ามาในซอยทางเข้าวัดหงส์ทอง และมาจอดรอบริเวณท่าเรือจ่าเหิม หมู่ที่ 9 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ต่อมาเวลาประมาณ 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบรถคันดังกล่าวกำลังขับออกจากบริเวณที่เกิดเหตุไปยังหน้าปากซอยวัดหงส์ทอง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบก่อนตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้แสดงบัตรข้าราชการให้ผู้ขับขี่ดูจนเป็นที่พอใจ ผลการตรวจสอบพบนายขันลอง แฝงศักดิ์ดา อายุ 48 ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชน 3 3020 01044 84 6 ที่อยู่ 5/1 หมู่ 5 ต.ดอนเมือง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา (ทราบชื่อในภายหลัง) ผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าว ได้นำตรวจสอบด้วยความสมัครใจ และนำตรวจสอบท้ายรถซึ่งคลุมด้วยผ้าใบสีน้ำเงิน ผลการตรวจสอบพบ ข้าวสาร ตรา UNCLE SAM ตัวอักษรสีชมพู ขนาดบรรจุ 22.5 กก. บรรทุกอยู่ท้ายรถบรรทุกคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงให้นายขันลองฯ ขับรถมายังบริเวณท่าเรือเพื่อทำการตรวจสอบข้าวสารที่บรรทุกอยู่ท้ายรถ ผลการตรวจสอบปรากฏว่ามีข้าวสาร จำนวน 283 กระสอบ จึงได้สอบถามนนายขันลองฯ ถึงแหล่งที่มา ของข้าวสารที่บรรทุกอยู่ท้ายรถ นายขันลองฯ ให้การว่าตนได้รับคำสั่งจาก นายโจ้ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ด้วยเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 083-6061771 เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของ วันที่ 31 ม.ค.63 นายโจ้ฯ ติดต่อว่าจ้างตนในราคา 3,000 บาท เพื่อให้ตนมารับข้าวสารจากเรือ ที่บริเวณท่าเรือจ่าเหิม และนำไปส่งต่อโดยมีผู้มารับต่ออีกทอดหนึ่งใน ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จากนั้นตนได้มาจอดรถบริเวณที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น.
ต่อมาเวลา 23.00 น. ตนพบเรือลำดังกล่าวจอดเทียบที่ท่าเรือดังกล่าว และมีข้าวสารบรรทุกอยู่ในเรือจำนวนมาก โดยมีผ้าใบคลุม คนงานประมาณ 5 คน ได้ขนข้าวสารขึ้นจากเรือลำดังกล่าวไปไว้ท้ายกระบะ โดยใช้เวลาในการขนประมาณ 1 ชม. เมื่อเสร็จเรียบร้อยตนจึงได้ปิดผ้าใบเพื่อคลุมข้าวสารที่บรรทุกอยู่ท้ายรถและตนได้ขับรถออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นตนขับรถไปถึงบริเวณก่อนปากซอยวัดหงส์ทอง พบเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้หยุดรถ และแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบ พบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวบรรทุกข้าวสารจำนวนมาก จึงได้ให้นายขันลองฯ ขับรถมาบริเวณท่าเรือและพบเรือลำดังกล่าวยังจอดเทียบท่าอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบเรือและทราบว่าเรือลำดังกล่าวชื่อ ณัฏฐกิตติ์นำโชค 2 หมายเลขทะเบียนเรือ 576100441 แต่ไม่พบผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าว จาการตรวจสอบเรือปรากฏว่าพบข้าวสาร จำนวน 6 กระสอบ วางอยู่ในห้องเครื่องของเรือลำดังกล่าว ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับข้าวสารที่บรรทุกอยู่ท้ายรถ และนายขันลองฯรับว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่บรรทุกข้าวสารมาให้กับตนจริง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายขันลองฯทราบว่า ”ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืน หรือรับของโจร”
จากนั้นได้มีการประสานงานกับ นายกฤตภาส กฤชสุวรรณวุฒิ หมายเลขโทรศัพท์ 081-5673214 อายุ 57 ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชน 3 2006 00013 50 5 ที่อยู่ 10/107 หมู่ที่ 1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจ จาก บริษัท เอเชีย โกลเด้น ไรซ์ จำกัด รับว่าข้าวสารจำนวนดังกล่าวเป็นของทางบริษัทฯจริงและได้มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายขันลองฯ พนักงานขับรถ เจ้าพนักงานจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายขันลองฯ ทราบว่า ”ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืน หรือรับของโจร”