ผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโพดุลที่พัดผ่านประเทศไทยทำให้เกิดฝนตกน้ำท่วมและน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและนาข้าวของราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสกลนคร กาฬสินธ์ อุดรธานีตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและทุกส่วนราชการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโพดุล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการข้าราชการตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เบื้องต้นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว
พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, พล.ต.ต.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค ๒ , พ.ต.อ.สุภัทร ม่วงสมัย รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค ๒ พร้อม ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๑ – ๒๔ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำ ตชด. จำนวน ๓๔๖ นายและประชาชนจิตอาสาเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่จังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี กาฬสินธ์ ยโสธร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และอุดรธานี ทั้งด้านกำลังพล ยานพาหนะทั้งรถยนต์บรรทุก เรือท้องแบน เรือพระราชทาน ร่วมกับฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเร่งปรับปรุงคันกั้นน้ำโดยในขั้นต้นเตรียมกระสอบทราย ๕,๐๐๐ กระสอบ ช่วยเหลือการอพยพประชาชนและสิ่งของไว้ในที่ปลอดภัย เปิดเส้นทางระบายน้ำ และชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกแจกจ่ายยารักษาโรคให้กับประชาชนที่ยังไม่สามารถเดินทางออกมาได้ ตลอดจนทำการซ่อมแซมในขั้นการฟื้นฟูบูรณะแล้ว
ในวันนี้ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้มาอำนวยการปฏิบัติในพื้นที่และปล่อยแถวกำลังพลชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยจัดกำลังเพิ่มเติมจากนักเรียนนายสิบตำรวจ สังกัดกองกำกับการ ๔ กองบังคับการฝึกพิเศษและกำลังพลชุดช่างสนามจากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๔ ค่ายเสนีย์รณยุทธ จำนวน ๑ กองร้อย เดินทางไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุโพดุลในการซ่อมแซมคันกั้นน้ำและซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธ์ นอกจากนี้ทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๔ ได้จัดกำลังพลในสังกัด จำนวน ๔ กองร้อยเตรียมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดหนองคาย บึงกาฬและจังหวัดเลย จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขโดยเร็วอีกด้วย
