ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบลูกจ้างสาวแสบ แอบฉกเงินร้านสะดวกซื้อ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., ว่าที่ พ.ต.อ.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์, พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร, พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ, และ พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย โดย พ.ต.ท.เรืองวิทย์ ดวงจินดา สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.จักรภัทร สงรอด รอง สว. (สอบสวน) กก.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นางสาวสุนีย์ฯ ร อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 1064/2568 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2568 โดยกล่าวหากระทำความผิด “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง ในเวลากลางคืน” จับกุม บริเวณหน้าห้องเช่า ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณเดือนกันยายน 2568 น.ส.สุนีย์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้ไปสมัครงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านคูคต ซึ่งได้เข้าทำงานตำแหน่งพนักงานรายวัน ทำหน้าที่คิดเงินและจัดเรียงสินค้า ต่อมาทำงานได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ นางสาวสุนีย์ฯ ได้มีพฤติการณ์ขายสินค้าโดยไม่สแกนบาร์โค้ดสินค้าเข้าเครื่องคิดเงิน แต่เรียกเก็บเงินค้าสินค้าจากลูกค้าแล้วนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว
ต่อมาทางร้านสะดวกซื้อได้ตรวจสอบสินค้าประจำวัน ปรากฏสินค้าหายไปจำนวนมาก จึงได้ตรวจสอบกล้องวงปิดของทางร้านจึงได้ทราบว่า น.ส.สุนีย์ฯ ได้ขายสินค้าโดยไม่ใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดแล้วนำเงินที่ได้จากลูกค้าเข้ากระเป๋าตนเอง ผู้จัดการร้านดังกล่าวจึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อแจ้งความเอาผิดแก่ น.ส.สุนีย์ฯ หลังจากนั้น ผู้ต้องหา ก็ได้หลบหนีไม่มาทำงานอีกเลย ซึ่งผู้ต้องหาได้กระทำเช่นนี้มาแล้วในพื้นที่ สน.สายไหม และคดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.สุนีย์ ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบ พบ น.ส.สุนีย์ ฯ เดินอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การยอมรับว่าเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ ได้นำเอาไปใช้จ่ายส่วนตัว เตือนภัย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ผู้กระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท