
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ ของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว, พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., ว่าที่ พ.ต.อ.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ, พ.ต.ท.ทัตพร เลขะวัฒนพงษ์, พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา และ พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช รอง ผกก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น/จับกุม นำโดย พ.ต.ท.กรพงศ์ วงษาลังกา,พ.ต.ท.วรพล เลิศวิริยะพงศ์, ว่าที่ พ.ต.ท.ไพรวรรณ ตั้นหลก,พ.ต.ต.อดิศร อินทิยศ,พ.ต.ต.รชา มากมณี,ว่าที่ พ.ต.ต.หญิงนฤมล กัวซือกุ, ว่าที่ พ.ต.ต.สหรัฐ ยิ่งยวด,ว่าที่ พ.ต.ต.เตมีย์ นาคะวิสุทธิ์,ว่าที่ พ.ต.ต.อิทธิพล อ่ำมาก สว.กก.2 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. , กก.4 บก.ป. , กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา ตามหมายจับ ของศาลจังหวัดระยอง จำนวน 13 ราย ได้แก่
- นายโรเจอร์ สงวนนามสกุล (MR. ROGER ) สัญชาติ สวิตเซอร์แลนด์ อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่ จ.632/2568 ลง 19 ธ.ค.68
- นายวรโชติ สงวนนามสกุล อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.633/2568 ลง 19 ธ.ค.68 - น.ส.อัญชลี สงวนนามสกุล อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.634/2568 ลง 19 ธ.ค.68 - น.ส.สุภาภรณ์ สงวนนามสกุล อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.635/2568 ลง 19 ธ.ค.68 - น.ส.ภัสสร สงวนนามสกุล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.644/2568 ลง 19 ธ.ค.68 - นางณัฐภร สงวนนามสกุล อายุ 57 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.636/2568 ลง 19 ธ.ค.68 - นายธีรยุทธ สงวนนามสกุล อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.647/2568 ลง 19 ธ.ค.68 - น.ส.สมใจ สงวนนามสกุล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.645/2568 ลง 19 ธ.ค.68
9.นายวัฒนพงษ์ สงวนนามสกุลอายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.642/2568 ลง 19 ธ.ค.68
10.นายกันต์ธเดช สงวนนามสกุลอายุ 35 ปี ผูต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ. 641/2568 ลง 19 ธ.ค.68
11.นายธนกร สงวนนามสกุล อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.637/2568 ลง 19 ธ.ค.68 - นายชิษณุพงศ์ สงวนนามสกุลอายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.640/2568 ลง 19 ธ.ค.68
13.น.ส.วันเพ็ญ สงวนนามสกุล อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่
จ.639/2568 ลง 19 ธ.ค.68
ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง , ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ,สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ,ร่วมกันฟอกเงิน
คดีนี้สืบเนื่องจาก ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ให้ทำการสืบสวน Case Id ที่มีผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบ https://thaipoliceonline.go.th ซึ่งถูกมิจฉาชีพใช้กลอุบาย “Romance Scam” หรือหลอกให้รักและไว้วางใจให้ยืมเงินและร่วมลงทุน จนสูญเสียเงินรวมกว่า 21,901,110 บาท
โดยมีพฤติการณ์คือ เมื่อประมาณ ปี 2566 ผู้เสียหายได้รู้จักกับชายชาวต่างชาติรายหนึ่งผ่านเว็บไซต์หาคู่ (ThaiCupid) โดยคนร้ายอ้างตัวว่าเป็นชายโสดอาศัยอยู่ในประเทศจอร์แดน มีสถานะเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่กำลังประสบความยากลำบาก ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี คนร้ายได้สร้างความไว้วางใจด้วยการพูดคุยผ่าน
แอปพลิเคชันไลน์อย่างสม่ำเสมอ จนผู้เสียหายเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจและหลงรัก ต่อมาคนร้ายได้เริ่มแผนการหลอกลวงเรื่องการสร้างครอบครัวร่วมกันและชวนลงทุนธุรกิจในต่างประเทศ โดยอ้างว่าหากธุรกิจสำเร็จจะเดินทางมาใช้ชีวิตร่วมกันที่ประเทศไทย ด้วยความเชื่อใจผู้เสียหายจึงโอนเงินเพื่อร่วมลงทุนไปทั้งสิ้น 42 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ถึงกรกฎาคม 2568 ก่อนจะเริ่มผิดสังเกตและทราบว่าถูกหลอกลวงจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบ Thaipoliceonline
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการสืบสวนขยายผล จนทราบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้จำนวนทั้งสิ้น 17 ราย แบ่งเป็นชาวไทย 14 ราย, ชาวแคนาดา 1 ราย, ชาวกัมพูชา 1 ราย และชาวสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย และได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.บางฉาง จ.ระยอง จนสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดระยองออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องรวม 17 ราย
กระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้น จับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมด 17 ราย ในพื้นที่ 9 จังหวัดทั่วประเทศ และดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 13 ราย และพบว่าผู้ต้องหา 2 ราย ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในคดีอื่น ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีอยู่ คือ MR.YAT ชาวแคนาดา และ MR. KIM ชาวกัมพูชา ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในราชอาณาจักรไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งประสานงานติดตามตัว
นอกจากนี้ การตรวจสอบข้อมูลคดียังพบว่าบัญชีม้าในเครือข่ายนี้มีความเชื่อมโยงกับคดี Callcenter อื่นๆอีกถึง 19 คดี ทั้งการหลอกลงทุน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และหลอกเป็นศิลปินเกาหลี ซึ่งสร้างความเสียหายเพิ่มเติมอีกกว่า 36 ล้านบาท เมื่อรวมกับคดีล่าสุด ทำให้มีความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำความผิดแต่อย่างใด ผู้ต้องหาบางรายให้การว่าเป็นบุคคลที่รับซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตอล และผู้ต้องหาบางรายให้การว่ามีผู้อื่นมาติดต่อจ้างให้เปิดบัญชีธนาคารและได้นำบัญชีของตนเอง พร้อมให้ติดตั้งแอปพลิเคชันธนาคารด้วย
เตือนภัย อย่าหลงเชื่อบุคคลในสื่อสังคมออนไลน์ที่ตีสนิทสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเพื่อขอให้โอนเงินหรือร่วมลงทุนเด็ดขาด ปฏิเสธการโอนเงินในทุกกรณีหากยังไม่เคยพบตัวจริงหรือตรวจสอบที่มาของธุรกิจได้ชัดเจน หากพบพิรุธหรือตกเป็นเหยื่อให้รีบแจ้งความที่ www.thaipoliceonline.go.th ทันที
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ต.เตมีย์ นาคะวิสุทธิ์ สว. กก. 2 บก.ป.
โทร.061-6639589