กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปคบ. ได้สนธิกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ขณะกำลังปฏิบัติการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มเพื่อตัดตอนการส่งเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์/สแกมเมอร์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตรวจยึดของกลาง อาทิ เงินสดกว่า 2,025,400 บาท, บัตรกดเงินสดของผู้อื่น 37 ใบ, และยาเสพติด โดยดำเนินคดีข้อหาอั้งยี่, ใช้และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.), และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระดมปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการสแกมเมอร์ที่หลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ทุกรูปแบบ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., และ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบช.ก. ได้มอบหมายให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) โดย พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.บก.ปคบ. พร้อมด้วยคณะรองผู้บังคับการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจาก กก.3 บก.ปคบ. ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด
การปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีผู้เสียหายถูกคนร้ายหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมผ่านเฟซบุ๊ก และชักชวนให้ทำกิจกรรมภารกิจออนไลน์ต่าง ๆ โดยให้โอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินคืนได้ ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปคบ. พบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดได้มีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นถอนเงินสดจากตู้ ATM ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นประจำ
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ธนภูมิ ศักดิ์ประศาสน์ และ พ.ต.ท.วัลลภ นุชกำบัง สว.กก.3 บก.ปคบ. ได้นำกำลังเข้าจับกุม นางสาว A (นามสมมติ) ขณะกำลังถอนเงินจากตู้ ATM บริเวณหน้าร้านซีเจ ซุปเปอร์มาร์เก็ต สาขาถนนทุ่งกราด ต.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพบเงินสดจำนวน 51,000 บาท และบัตรกดเงินสดของผู้อื่นที่ใช้ในการกระทำความผิด
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบ นาย B (นามสมมติ) (คนขับ) พร้อมเงินสดจำนวน 132,400 บาท และบัตรกดเงินสดของผู้อื่น ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าร่วมกันนำบัตรของผู้อื่นมากดเงินตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง โดยได้รับค่าจ้างรายวัน และจะนำเงินไปมอบต่อให้กับ นาย C (นามสมมติ) เพื่อนร่วมแก๊งที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการขยายผลไปยังบ้านพักใน ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา และเข้าตรวจสอบตามความยินยอมของ นาย B (นามสมมติ) ภายในบ้านพักพบ นาย D (นามสมมติ) พร้อมอุปกรณ์เสพยาเสพติด และผลการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน นอกจากนี้ ยังพบนาย C (นามสมมติ) ซึ่งรับว่าตนเองทำหน้าที่รับบัญชีและบัตรจากผู้ว่าจ้างมามอบให้กลุ่ม “ม้ากดเงิน” ไปกดเงิน โดยตนจะได้รับส่วนแบ่งร้อยละ 10 ของยอดเงินที่กดได้
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางหลายรายการ อาทิ ตู้เซฟบรรจุเงินสด จำนวน 1,802,000 บาท, สมุดบัญชีธนาคาร 11 เล่ม, บัตรกดเงินสด (ATM) ของผู้อื่น 37 ใบ, โทรศัพท์มือถือ 21 เครื่อง, และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) และประเภท 2 (เคตามีน) รวมเงินสดของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งสิ้น 2,025,400 บาท
ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้:
นางสาว A, นาย B, และ นาย C (นามสมมติ): ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่, ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ, และร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ
ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย (นางสาว A, นาย B, นาย C, และ นาย D นามสมมติ): ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) และประเภท 2 (เคตามีน) โดยผิดกฎหมาย
นาย B, นาย C, และ นาย D (นามสมมติ): เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะดำเนินการขยายผลหาตัวกลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากประชาสัมพันธ์ และขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน ห้ามเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ให้ผู้อื่นโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะถูกเสนอค่าจ้างหรือผลตอบแทนใด ๆ ก็ตาม หากมีข้อสงสัย หรือพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายการเปิด/ซื้อ/ขายบัญชีม้า โปรดแจ้งเบาะแสมาที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (PCT) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com หรือโทร 1441
