ตร. บุกทลาย Sim box กลางเมืองมุกดาหาร

“รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” ตำรวจภูธรภาค 4 บุกทลาย Sim box กลางเมืองมุกดาหาร

วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2568) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากงาน “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” United Thailand Against Scammers นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมเพื่อยกระดับภาครัฐและเอกชนในการปราบสแกมเมอร์ โดยมีวอร์รูม (Warroom) สู้ภัยออนไลน์

ล่าสุดวันนี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 4 (ศปอส.ภ.4) มีผลการปฏิบัติทันที จากการประสานข้อมูลจาก Warroom ให้ตรวจสอบจุดมีพฤติกรรมน่าจะติดตั้ง SIM Box (เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์) จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นสถานที่ดังกล่าว โดย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4)/ผอ.ศปอส.ภ.4 สั่งการให้ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส รอง ผบช.ภ.4/รอง ผอ.ศปอส.ภ.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุด ศปอส.ภ.4, กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4, กก.สส.ภ.จว.มุกดาหาร, สส.สภ.เมืองมุกดาหาร และพิสูจน์หลักฐาน นำหมายค้นศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ จ.200/2568 ลงวันที่ 10 พ.ย.68 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 33/127 ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

ผลการตรวจค้น ตรวจยึดของกลาง ได้หลายรายการ ได้แก่ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (Sim box) จำนวน 4 เครื่อง (32 ช่อง/เครื่อง), เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย (Router wifi) จำนวน 2 เครื่อง, เครื่องสำรองไฟ (UPS) จำนวน 1 เครื่อง และกล้องวงจรปิด จำนวน 1 ตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึด จัดทำบันทึกร่วมกับชุดพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม และอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติได้ยกระดับดำเนินการกวาดล้างแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ และมิจฉาชีพทางออนไลน์ ซึ่ง ศปอส.ภ.4 สามารถตรวจพบ SIM Box สามารถหยุดยั้งการกระทำความผิดของคนร้ายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยปฏิบัติการในครั้งนี้เกิดจากความมุ่งมั่นของชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4, กก.สส.ภ.จว.มุกดาหาร ที่ได้ทำงานเชิงรุก รวดเร็ว และจะเร่งขยายผลจับกุมคนร้ายทั้งหมดที่นำ SIM Box มาติดตั้งทั้งขบวนการ โดยให้ประสานการทำงานกับ Warroom สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เข้มแข็ง และทุ่มเท เพื่อคุ้มครองประชาชนจากภัยอาชญากรรมออนไลน์ และขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกันเฝ้าระวัง หากพบพฤติกรรมต้องสงสัย หรือตกเป็นผู้เสียหายถูกหลอกลวงออนไลน์ สามารถแจ้งเบาะแส หรือขอความช่วยเหลือ ได้ที่สายด่วนศูนย์ 1441 หรือแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง