ไล่ล่าขบวนการลอบขนแรงงานข้ามชาติ ต่างด้าวอัดแน่นคันรถกว่า 18 ราย รวบได้พร้อมคนขับ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ติดตามไล่ล่าขบวนการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติ พบบุคคลต่างด้าวอัดกันมาในรถยนต์ถึง 18 คน รวบได้พร้อมคนขับ

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.โอฬาร เอี่ยมประภาส รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.บก.ทล. และ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.อำนาจ สีนวล รอง สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล., ร.ต.ท.กุศล ยะฝั้น, ร.ต.ต.พีรธรรม หนูนุรัตน์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล., ด.ต.นรงค์กร ชำนาญกิจ, ด.ต.ปกรณ์ สิทธิศักดิ์ด.ต.นพดล สีนวล ผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา

1. นายเจษฎาฯ อายุ 45 ปี สัญชาติ ไทย ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ผู้ซ่อนเร้น ช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”

2. บุคคลต่างด้าวจำนวนทั้งหมด 16 ราย ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” (พร้อมผู้ติดตามจำนาน 1 ราย)

ได้ทำการตรวจยึดของกลาง

1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน สีดำ 1 คัน

2. โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ได้มีการสืบทราบว่ามีขบวนการนำพาหรือช่วยเหลือบุคคลแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเดินทางโดยรถยนต์ใช้เส้นทางบ้องตี้ – เมืองกาญจนบุรี จึงได้นำรถวิทยุออกตรวจบริเวณถนนหมายเลข 4032 ต่อมา เวลาประมาณ 10.00 น. ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยลักษณะบรรทุกหนักและใช้ความเร็วสูงสีดำ วิ่งมาบนถนนทางหลวงหมายเลข 4032 เมื่อมาถึงบริเวณ ม.4 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวหยุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบนายเจษฎาฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในรถยนต์ พบบุคคลต่างด้าวอยู่ในห้องโดยสารรถยนต์เป็นชายและหญิง จำนวน 16 คน และพบบุคคลต่างด้าวนอนอยู่ภายในกระบะท้ายพร้อมกระเป๋าสัมภาระโดยมีผ้าใบสีดำปกปิดเพื่อปิดบังเจ้าหน้าที่ จำนวน 1 คน รวมบุคคลต่างด้าวพร้อมผู้ติดตามทั้งสิ้น 17 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ให้บุคคลต่างด้าวพร้อมผู้ติดตามทั้งหมดแสดงเอกสารหลักฐานประจำตัว จากการตรวจสอบโดยละเอียดปรากฏว่าทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ผู้ต้องหาทุกคนทราบว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิด จะต้องถูกจับกุม โดยแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสิทธิ์ของผู้ต้องหาและควบคุมตัวทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นายเจษฎาฯ ให้การยอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายแหลม ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุลจริง ได้ติดต่อผ่านโทรศัพท์ ให้นายเจษฎาฯ ไปรับบุคคลต่างด้าวบริเวณท้ายเหมืองบ่องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ประมาน 16 คน ใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 4032 เพื่อนำบุคคลต่างด้าวส่งที่บริเวณป่าอ้อย ม.4 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้รับค่าจ้างหัวละ 400 บาท โดยเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ นายแหลมจะเป็นผู้นำเงินมาให้กับตนเองที่บ้าน นายเจษฎาฯ ยอมรับว่าเคยทำมาแล้วประมาณ 10 ครั้ง ซึ่งรถยนต์ที่ใช้ในการลักลอบขนบุคคลต่างด้าว มีชื่อของนางสาวชิดชนกฯ เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งนายเจษฎาฯ ให้การว่าเป็นญาติของตน เป็นผู้ออกรถคันดังกล่าวมาให้และตนเป็นคนผ่อนชำระ จึงได้นำมาใช้ในการลักลอบขนบุคคลต่างด้าว

จากการสอบถามบุคคลต่างด้าวทั้งหมด (ผ่านล่ามแปล) ให้การว่าเดินทางมาจาก จังหวัดทวาย ประเทศพม่า ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยโดยเข้าช่องทางธรรมชาติบ้านบ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ชั้นในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 15,000-20,000 บาท โดยญาติเป็นผู้จ่ายเงินให้กับนายหน้า สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา