ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มขับกระบะตู้ทึบ อาสาไปส่งสาว ก่อนเผยธาตุแท้จอดรถในป่าละเมาะ ลงมือบังคับข่มขืน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พงศกร โนรี ประจำ (สบ 5) บก.ปคม., พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์ รอง ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยะวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.เอกรณการ นาคนิยม รอง ผกก.1 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.ณัฐพัชร์ งามประดิษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่จับกุม นำโดย พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.1 บก.ปคม., ร.ต.อ.ธนากร แก่นอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม นายนพดลฯ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1112/2568 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ข้อหา “หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ”

สถานที่จับกุม บริเวณที่จอดรถเทศบาลเมืองแสนสุข ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวพยายามติดต่อแฟนหนุ่มซึ่งทำงานเป็นพนักงานส่งของ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงตัดสินใจจะไปรอที่บริษัทของแฟนบริเวณซอยร่มเกล้า 17 ระหว่างที่กำลังยืนรอนั้น นายนพดลฯ ผู้ต้องหาซึ่งขับรถยนต์กระบะตู้ทึบผ่านมา ได้สบโอกาสทำทีเข้ามาสอบถามและสวมบทเป็นพลเมืองดี อาสาว่าจะพาไปส่งที่บริษัทของแฟนหนุ่ม ด้วยความไว้ใจคิดว่าไม่มีอะไร ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและขึ้นรถไปด้วย แต่แทนที่จะไปส่งตามที่ตกลง นายนพดลฯ กลับขับรถเลยบริษัทของแฟนผู้เสียหายไป อ้างว่าจะพาไปดักรออีกซอยหนึ่ง ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าซอยเปลี่ยวจนถึงบริเวณป่าละเมาะ แล้วหยุดรถพร้อมกับใช้คำพูดหื่นกามอยากมีเพศสสัมพันธ์ ผู้เสียหายไม่ยินยอมจึงพยายามขัดขืน แต่ นายนพดลฯ บอกว่าหากไม่ยินยอมจะเเทง ผู้เสียหายเกิดความกลัว จึงโดนนายนพดลข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้นพาตัวผู้เสียหายไปปล่อยทิ้งไว้ที่ตรงข้ามซอยลาดกระบัง 11/12 แล้วขับรถหลบหนีไป


หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนทันทีและออกหมายจับในเวลาต่อมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงได้ลงมือแกะรอย จนกระทั่งสืบทราบว่า นายนพดลฯ ได้หลบหนีไปกบดานตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยใช้วิธีนอนในรถยนต์ตามปั๊มน้ำมันในหลายจังหวัด หาของเก่าขายประทังชีวิตเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรววจ กก.1 บก.ปคม. ได้สืบสวนจนทราบว่านายนพดลฯ
ได้ไปตระเวนรับซื้อของเก่าในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและได้เช่าห้องพักรายวันเป็นที่หลับนอน ย่านถนนบางแสน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเฝ้าสังเกตการณ์และเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามเบื้องต้น นายนพดลฯ ให้การว่า ผู้เสียหายกับตนเองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ก่อนเกิดเหตุ นายนพดลฯ ทะเลาะกับแฟนสาว โดยได้ดื่มเหล้าจำนวนมาก พร้องทั้งเสพยาเสพติด เมื่อพบผู้เสียหายจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ไม่มีสติกระทำความผิดตามพฤติการณ์ข้างต้น แต่อ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าได้ขอมีอะไรกับผู้เสียหายแต่ผู้เสียหายยอมเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิด
ของ นายนพดลฯ พบประวัติโชกโชน มีทั้งคดีทำร้ายร้างกายและยาเสพติด ดังนี้


1) เมื่อประมาณปี พ.ศ.2551 ศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาจำคุก 3 ปี 6 เดือน เนื่องจากกระทำความผิดในข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นและบุกรุกฯ” และออกจากเรือนจำเมื่อปี พ.ศ.2554
2) เมื่อปะมาณปี พ.ศ.2567 ศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาจำคุก 1 ปี 3 เดือน เนื่องจากกระทำความผิดในข้อหา “ตัวการ ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1ฯ” ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”