ตำรวจ ดส. ทลายแหล่งผลิต 4×100 ย่านมหาวิทยาลัย ยึดน้ำท่อม-ยาอันตรายเพียบ

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส.บช.น. เปิดเผยว่าตามนโยบาย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.),พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ให้ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.)ดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวังและติดตามดำเนินการของผู้ประกอบการที่ไม่ได้รับอนุญาตจำหน่ายและแปรรูปเพื่อการค้า (กัญชา)และลักลอบผลิตน้ำต้มพืชกระท่อมผสมยาอันตรายโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่กรุงเทพมหานครตามนโยบายรัฐบาลกำหนด พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส., พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ รอง ผกก.ดส., พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.สั่งการตรวจค้นร้านจำหน่ายกัญชาและน้ำกระท่อม ชื่อ “TOM GUN KUP” ซ.วงศ์สว่าง 11 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จับกุม นายจิรกิตติ์ อายุ 26 ปี , น.ส.นันทน์ณัฏฐ์ อายุ 23 ปี พนักงานขายร้าน TOM GUN KUP
พ.ต.ต.ยศชนินทร์ กล่าวว่าก่อนจับกุมรับแจ้งว่ามีการลักลอบผลิต 4*100 และต้มพืชกระท่อมผสมยาแก้ไอหรือยาอันตรายชนิดต่างๆ ย่านมหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่ กก.ดส. จึงบุกทลายแหล่งผลิตพบของกลางซุกซ่อนแน่นร้านมียาอันตรายและหลังร้านมีการน้ำต้มพืชกระท่อม จำนวน 2 หม้อ และซ่อนในตู้แช่ 19 ขวด ผู้ต้องหาให้การว่า จะผลิตน้ำกระท่อมตามสูตรหรือผสมยาต่างๆ ตามที่ลูกค้าสั่ง มีรายได้ต่อว่า 5,000-9,000 บาท
– โดยกล่าวหาว่า พรบ.อาหาร พ.ศ.2522
1.ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารที่มีพืชกระท่อมเป็นส่วนผสม ม.6 (8) โทษตาม ม.50
2.เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่แสดงเลขสารบบอาหาร และฉลากภาษาไทย ซึ่งเป็นความผิดตา ม. 6(10)
พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510
1.ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.ยา ม.12
2.ร่วมกันขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ม.32
พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537
1 ร่วมกันประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต ม.28
พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542
1.ฝ่าฝืนศึกษาวิจัยหรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า
– รายการของกลาง
1.ใบกระท่อมดิบ 6 ลัง
2.ยาTradolgesic แคปซูลเขียวเหลือง 560 แคปซูล
3.ยาTramada แคปซูลชมพู 300 แคปซูล
4.ยา Volcidol-s เม็ดสีขาว 80 เม็ด
5.ยาซีซา ไซรัป 18 ขวด
6.ยาฟาเทค ไซรัป 10 ขวด
7.ยาคลินิโคล ไซรัป 2 ขวด
8.ยาซาโนดริล 5 ขวด
9.ยาโปรลีน ไซรัป 5 ขวด
10.ยาโปรเมทาซีน ไซรัป 55 ขวด
11.ยาเบนาดริล 22 ขวด
12.ยาดาทัสซิน 31 ขวด
13.ยาไดเฟ็นนิล 4 ขวด
14.ยาซีเฟนดริล 5 ขวด
15.ยายูนิแรกซ์ 7 ขวด
16.ยาอาซาคอก 2 ขวด
17.ยาอเลอร์ยิ่น 47 ขวด
18.น้ำกระท่อมขนาด 1.5 ml 19 ขวด
19.ขวดเปล่าขนาด 1.5 ml 72 ขวด
20.ฝาขวดพลาสติกสีดำ 64 ฝา
21.ช่อดอกกัญชา Permanent Marker 50 กรัม
22.ช่อดอกกัญชา Runtz x Sherb 25 กรัม
23.ช่อดอกกัญชา Truffle queen 25 กรัม
24.ขนมบราวน์นี่ผสมกัญชา 70 ชิ้น
25.เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง
26.เครื่องคิดเงินสด 1 เครื่อง
27.เงินสด 2825 บาท
28.แผ่น QR Code รับเงินร้าน ชื่อTGK Soi11 บัญชี นายชยุตพงศ์ ไตรพร 1 แผ่น
29.ขวดปั๊มใส่ยาดาทิสซิลและอเลอร์ยิ่น รสราสเบอร์รี่ 800 มิลลิลิตร
30.ถังแก๊สยี่ห้อเวิล์ดแก๊ส ขนาด 15 ลิตร 1 ถัง
31.เตาแก๊สขนาด 5 นิ้ว 2 หัว
32.หมอต้มขนาด 50 ลิตร 3 ใบ
33.โทรศัพท์ OPPO A57 รุ่น CPH2387 สีฟ้า 1 เครื่อง
34.แท็ปเล็ท l10Pro สีดำ 1 เครื่อง
นำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ต.ยศชนินทร์ กล่าวว่าปัจจุบัน มีวัยรุ่นหลายกลุ่ม นิยมถามหายาโปรเมทาซีน ยาโปรโคดิล และยาทรามาดอล ตามร้านยา เพื่อนำมาผสมกับยาแก้ปวดหรือยาแก้ไอ แล้วเสพให้เกิดความมึนเมา ซึ่งการทำแบบนี้ ก่อให้โทษต่อร่างกายและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เนื่องจากเป็นยาอันตรายที่ใช้ในกรณีมีอาการปวดรุนแรง ซึ่งการนำยาดังกล่าวมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงสูง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง ง่วงซึม หากได้รับยาเกินขนาด ระบบหัวใจและหลอดเลือดจะล้มเหลว เกิดอาการชัก และระบบหายใจทำงานช้าลงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้