ทลายขบวนการลอบซื้อยาควบคุมจาก อย. พบแพทย์หญิงเอี่ยวขบวนการ

ขบวนการฉ้อโกงลอบซื้อยาควบคุมจาก อย. ถูกยุติ! ปส.จับกุมยกแก๊ง” สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภาว่า ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ในการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ ประกอบกับนโยบาย ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร์ ผบ.ตร. ซึ่งกำซับควบคุมและกำกับดูแลวัตถุเสพ ติดให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย รวมถึงการตรวจสอบ กำกับดูแล เฝ้าระวังวัตถุเสพติด สถานประกอบการ และการโฆษณาวัตถุเสพติดให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายยาเสพติด
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร(ปป) และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.บช.ปส. โดย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส, พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, เภสัชกร ฉัตรชัย พานิชย์ศุภภรณ์ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
สืบเนื่องจาก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้รับการประสานแจ้งข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบน้ำยาควบคุมแผนปัจจุบัน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ และประเภท ๔ ออกนอกระบบและนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยานอนหลับ ยารักษาอาการวิตก กังวล และยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. จึงได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าวพฤติการณ์ คือ กลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งมีบุคคลากรทางการแพทย์ ที่สามารถสั่งซื้อยาแผนปัจจุบันดังกล่าวจากอย. ได้ โดยทำการสั่งซื้อในนามของคลินิกทางการแพทย์ต่างๆ จำนวน ๑ด คลินิก จากนั้นนำยาแผนปัจจุบันดังกล่าวเก็บรวบรวมซุกซ่อนไว้ในเคหสถานส่วนตัว เพื่อรอนำออกไปจำหน่ายในกับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่นำไปใช้ในทางที่ผิด โดยมีการทำงานกันเป็นขบวนการ ทั้งทีมสั่งซื้อยา ทีมเก็บรักษาซุกซ่อน และทีมที่คอยจัดจำหน่ายในกับกลุ่มลูกค้า และจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนจากการนำยาควบคุมแผนปัจจุบัน ออกไปจำหน่ายนอกระบบกว่า๑๐๐ ล้านบาท กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์กลุ่มดังกล่าวเรื่อยมา จนสามารถจับคุมกลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่นำยาควบคุม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ออกไปจำหน่ายนอกระบบ และได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้องอีก จำนวน 5 ราย ต่อศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ฟลูไนตราชีแพม หรือ Flunitrazepam) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน. สมคนโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว”
ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 7 ราย จับกุมตามหมายจับ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย
1.พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี xxx
2. นายดุริยลักษ์ xxx
3.น.ส.ณัฐพัชร์ xxxx
4.นายปกรณ์ xXx
5.นายอรชุน xXXx
จับกุมพร้อมของกลาง จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย
1.น.ส.พัชรา xxx
2.น.ส.พชรมน XXXX
ยึดของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4
รวมของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ จำนวน 170,400 เม็ด และสามารถยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด ไว้เพื่อตรวจสอบ รวมกว่า 400 ล้านบาท
จากในขบวนการนี้ พบ 1 ผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจ ทางด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำว่า หากมีข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ขอให้มั่นใจว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะเป็นใคร จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด