อย่าหลงเชื่อ!! ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกกู้เงินออนไลน์ 

อย่าหลงเชื่อ!! ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกกู้เงินออนไลน์ 

หลาย ๆ คนมักจะประสบปัญหาเรื่องการเงิน เมื่อมีช่องทางการกู้เงินออนไลน์ที่สามารถทำให้ได้เงินง่าย ก็มักจะไปกู้ยืม แต่จะมีสักกี่คนที่รู้นอกจากจะไม่ได้เงินแล้ว ยังต้องเสียเงินเพิ่ม การกู้เงินออนไลน์ที่ไม่ระมัดระวัง อาจนำมาซึ่งการสูญเสียแทนที่จะได้รับเงินกู้ตามที่คาดหวัง

คำโฆษณาเกินจริงที่ใครได้เห็นก็อยากลองกู้ แต่อยากให้ทุกคนลองคิดสักนิดว่าจะมีคนไม่รู้จักที่ไหนให้เรากู้เงินง่าย ๆ 

• ใคร ๆ ก็กู้ได้ 

• กู้เงินได้ตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน

• ไม่ต้องมีคนค้ำ

• ทำเอกสารไม่ยาก ไม่เช็คเครดิตบูโร

• อนุมัติไว เงินโอนเข้าบัญชีภายในวันนั้นเลย

กลโกงของมิจฉาชีพหลอกกู้เงินออนไลน์

1. ขอเอกสารส่วนตัว

มิจฉาชีพจะให้เหยื่อส่งข้อมูลส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน รูปถ่ายคู่กับบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร รวมถึงจะมีเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องการให้เหยื่อกรอกเพิ่มเติม โดยอ้างว่าเป็นเอกสารจำเป็น เพื่อใช้ในการกู้ยืมเงิน

2. ค่าดำเนินการ

เมื่อเหยื่อทำการส่งข้อมูลเอกสารส่วนตัวต่าง ๆ มิจฉาชีพจะอ้างต่อทันทีว่ามีค่าดำเนินการในการกู้ยืม แต่จะคืนให้พร้อมกับเงินกู้ พร้อมกับส่งเลขบัญชีธนาคาร บัตรประชาชนที่มีชื่อ – นามสกุลเดียวกันมาให้เหยื่อ เพื่อสร้างความเชื่อใจว่ามีตัวตนจริง ๆ 

3. เหยื่อหลงเชื่อ 

เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินค่าดำเนินการให้เพื่อหวังที่จะได้เงินกู้ มิจฉาชีพจะมีการอ้างต่อทันที ว่าระบบเกิดปัญหา เลขบัญชีธนาคารผิด เหยื่อต้องโอนเงินมาเพิ่ม พร้อมกับประโยคที่ว่า “ไม่ต้องกลัวเงินจำนวนนี้ไม่หายไปไหน จะทำการคืนให้พร้อมกับเงินกู้“

4. เหยื่อเริ่มรู้สึกแปลกใจ 

เมื่อเหยื่อไม่มีเงินเพิ่ม และเริ่มรู้สึกแปลกใจว่าทำไมไม่เป็นไปตามที่คุยกัน และเหยื่อได้มีการให้มิจฉาชีพหักเงินค่าดำเนินการจากเงินกู้หรือต้องการขอเงินที่โอนไปคืน มิจฉาชีพจะอ้างว่า “ทำไม่ได้“ พร้อมกับขู่หลอกเหยื่อว่าถ้าไม่โอนเงินเพิ่มเข้ามา จะมีความผิดต้องถูกดำเนินคดี และจะต้องเป็นหนี้ เพราะได้ทำสัญญากู้เงินไปแล้ว แม้ว่าเหยื่อจะไม่ได้เงินจำนวนนั้นก็ตาม พร้อมกับข้อความขู่ต่าง ๆ ที่ทำให้เหยื่อรู้สึกหวาดกลัว 

5. บล็อก ขาดการติดต่อ 

เมื่อมิจฉาชีพได้เงินตามที่ต้องการ จะดำเนินการบล็อกเหยื่อ และขาดการติดต่อไป

การกู้เงินออนไลน์ที่ดูง่ายและรวดเร็ว อาจแฝงไปด้วยความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อที่ดูเกินจริง โดยไม่ตรวจสอบข้อมูล และควรระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวหรือโอนเงินให้บุคคลที่ไม่รู้จัก ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หากประชาชนได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงถูกหลอกลวงทางสื่อสังคมออนไลน์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง