กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบกป., ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ รอง ผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ท.อภิมันฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.ท.วิทยา สุทธิปัญโญ รอง สว.(ป.)กก.3 บก.ป., ร.ต.ท.สุรศักดิ์ บุญเพ็ง รอง สว.(ป.)กก.3 บก.ป., ร.ต.ต.ชโยธรณ์ ทองนาค รอง สว.(ป.)กก.3 บก.ป., ร.ต.ต.มนตรี โสภัย รอง สว.(ป.)กก.3 บก.ป., ด.ต.นมสิทธิ์ วาทโยธา ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป., ด.ต.ประกาญ แก้วโพธิ์งาม ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป., ด.ต.สังเวียน โอรา ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป., ด.ต.พิชิตณรงค์ คำยศ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป., ด.ต.หัสดี ชิลนาค ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป., ด.ต.มงคล ชิณภาพ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม น.ส.จิรัชยาฯ อายุ 41 ปี ในข้อหา “ร่วมกันยักยอกทรัพย์และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 520/2566 ลง 27 ธันวาคม 2566 จับกุม บริเวณป่าละเมาะ ด้านทิศตะวันออกของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.เมยวดี อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด
หมายจับเพิ่มเติม จำนวน 11 หมาย
1.ศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ 334/2567 ลงวันที่ 13 พ.ย.67 ข้อหา “ยักยอก, ปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ”
2.ศาลจังหวัดขอนแก่น 616/2567 ลงวันที่ 26 ส.ค.67 ข้อหา “ปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ”
3.ศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 190/2567 ลงวันที่ 11 เม.ย.67 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์”
4.ศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ที่ 251/2566 ลงวันที่ 4 ธ.ค.66 ข้อหา “ยักยอก”
5.ศาลแขวงขอนแก่น ที่ 66/2566 ลงวันที่ 27 ก.พ.66 ข้อหา “ยักยอกทรัพย์, การเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ”
6.ศาลจังหวัดสกลนคร ที่ 181/2566 ลง 15 ก.ย.66 ข้อหา “ฉ้อโกง”
7.ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 163/2567 ลงวันที่ 28 ก.พ.67 ข้อหา “ฉ้อโกง ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร”
8.ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 959/2566 ลงวันที่ 20 ธ.ค.66 ข้อหา “ยักยอก”
9.ศาลจังหวัดสกลนคร ที่ 260/2562 ลงวันที่ 23 ธ.ค.62 ข้อหา “ยักยอก”
10.ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน ที่ 569/2566 ลงวันที่ 22 ธ.ค.66 ข้อหา “ยักยอก”
11.ศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 177/2565 ลงวันที่ 16 มิ.ย.65 ข้อหา “ปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณ ปลายเดือน พ.ย.2567 ได้มีผู้เสียหายร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม ติดตามจับกุม น.ส.จิรัชยาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดียักยอก, ปลอมเอกสาร มีหมายติดตัว 10 กว่าหมาย แต่ยังไม่สามารถติดตามตัวได้ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการใน พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีแต่โดยเร็ว
จากการสืบสวนทราบว่า เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว น.ส.จิรัชยาฯ เคยรับจ้างจากกลุ่มนายหน้ารับจำนำรถ (รถสิบล้อ) โดยให้ตนนำเงินจำนวน 3 แสนบาท ไปส่งมอบให้กับเจ้าของรถที่นำรถมาจำนำที่ ปั้ม ปตท. แห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เพื่อรับกุญแจรถไปส่งมอบให้นายหน้า แล้วนายหน้าจะนำรถไปมอบให้นายทุนต่อไป โดยตนได้เงินค่าจ้าง จำนวน 4,000 บาท หลังจากนั้น อีกหลายเดือน เจ้าของรถได้ติดต่อขอรับรถคืน
แต่ตนไม่สามารถหารถมาคืนเจ้าของรถได้ จึงถูกดำเนินคดีดังกล่าว
จากการตรวจสอบประวัติ พบ น.ส.จิรัชยาฯ มีหมายจับติดตัวถึง 12 หมายจับ ล้วนแล้วแต่เกี่ยวเนื่องกับพฤติการณ์ยักยอก ปลอมเอกสาร ซ้ำไปซ้ำมา และเป็นที่ต้องการตัว แต่ยังไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจาก ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี เปลี่ยนที่อยู่ตลอด ยากต่อการติดตาม หลบหนีมาแต่ ปี2562 จนถึงปัจจุบัน โดยการแฝงตัวนอนรีสอร์ทย้ายที่อยู่ไปมาตลอด
พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.จิรัชยาฯ ไปหลบหนีมาอยู่ที่ ข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.เมยวดี อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด
จนกระทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ เรียก น.ส.จิรัชยาฯ เมื่อน.ส.จิรัชยาฯ เห็นเจ้าหน้าที่ทันใดนั้นได้วิ่งหลบหนีไปป่าละเมาะ ด้านทิศตะวันออกของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.เมยวดี อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด เกือบ 400 เมตร กระทั่งเจ้าหน้าที่วิ่งไล่ติดตามจับกุมตัว น.ส.จิรัชยาฯ ได้ในที่สุด จากการสอบถาม น.ส.จิรัชยาฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตนได้มาอาศัยแฝงตัวขออยู่กับเพื่อนที่เช่าบ้านบริเวณดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำตัว น.ส.จิรัชยาฯ ส่งศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
