รวบสาวรับจ้างเปิดบัญชีม้า แลกกับค่าตอบแทนหลักหมื่น ถูกจับกุมดำเนินคดีลุ้นโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวรับจ้างเปิดบัญชีม้า แลกกับค่าตอบแทนหลักหมื่น ถูกจับกุมดำเนินคดีลุ้นโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช  เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.   ปฏิบัติราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์, พ.ต.ท.กฤตย์  ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. (นครปฐม) นำโดย ร.ต.อ.ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์ รองสว.ส.ทล.1กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.บัณฑิต จำปาศรี, ร.ต.ท.อำนวย บุญทองศรี, ร.ต.ต.ภานุพงษ์ ทองนพ รอง สว (ป.) ส.ทล.1กก.2 บก.ทล, จ.ส.ต.เมทิศกร พันสีจันทร์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม น.ส.กุลณัฐฯ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 569/2567 วันที่ 5 กรกฎาคมคม พ.ศ.2567 กระทำความผิดฐาน “เปิดหรือยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่เกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใดและเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุม ตลาดศาลายา อ.ศาลายา จ.นครปฐม

พฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 นายเอ (ผู้เสียหาย) ได้เห็นประกาศรับสมัครงานผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “นู๋หยก มนัณญา” (เพจมิจฉาชีพ) โดยเพจดังกล่าวได้ประกาศหาคนมาทำงานออนไลน์ โดยเป็นงานกรอกข้อมูลลงระบบแลกกับค่าตอบแทนหลักหมื่น เมื่อนายเอฯ เห็นประกาศก็หลงเชื่อเข้าไปสมัครงานกับเพจดังกล่าว จากนั้นนายเอฯ ได้ถูกชักชวนให้เข้ากลุ่มไลน์ ซึ่งในกลุ่มก็จะมีทั้งผู้เสียหายรายอื่นและหน้าม้าที่เป็นมิจฉาขีพ โดยในกลุ่มจะมีแอดมินที่ทำหน้าที่จ่ายงานให้สมาชิกในกลุ่มได้ทำ โดยมีเงื่อนไขว่า สมาชิกทุกคนจะต้องโอนเงินมาเพื่อเป็นหลักประกันว่ารับงานแล้วจะไม่ทิ้งงาน หากทำงานเรียบร้อยก็จะได้เงินประกันคืนพร้อมกับเงินค่าตอบแทน ซึ่งมิจฉาชีพจะทำให้ดูก่อนเพื่อล่อลวงให้นายเอฯ หลงเชื่อและยอมจ่ายเงินประกันเพื่อรับงาน แต่เมื่อนายเอฯ ทำงานเรียบร้อยเเล้ว นายเอฯ กลับไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด อีกทั้งยังถูกแอดมินและหน้าม้าชักชวนให้จ่ายเงินเพิ่มเพื่อรับภารกิจเพิ่ม โดยหลอกว่าจะได้ค่าตอบแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนภายหลังนายเอฯ หลงเชื่อ โอนเงินไปให้มิจฉาชีพกลุ่มนี้ไปกว่า 130,000 บาท โดยเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.กุลณัฐฯ​ ภายหลังนายเอฯ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม และพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการขอให้ศาลจังหวัดอนุมัติหมายจับ น.ส.กุลณัฐฯ (เจ้าของบัญชีม้า) และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงในครั้งนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐมได้ออกตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบ และได้รับแจ้งว่า น.ส.กุลณัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับได้เดินมาทำธุระที่ อ.ศาลายา จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ บริเวณตลาดศาลายา จากนั้นจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย   ต่อไป

เบื้องต้น น.ส.กุลณัฐฯ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อช่วงต้นปี 2567 ตนได้เห็นประกาศรับซื้อบัญชีธนาคาร ซิมการ์ดลงทะเบียนผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก (จำชื่อไม่ได้) ในราคาบัญชีละ 10,000 บาท โดยตนเองทราบว่านี้คือการเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ แต่ไม่ทราบว่ามิจฉาชีพจะนำไปใช้หลอกลวงประชาชนในรูปแบบใด ส่วนสาเหตุที่รับเปิดบัญชีม้าเพราะเห็นแก่ค่าตอบแทนที่สูงถึงหนึ่งหมื่นบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยสำหรับ การเปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปขายให้กับผู้อื่นนำใช้งาน (บัญชีม้า) มีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ