ตำรวจภาค 7 แถลงจับแก๊งลักอุปกรณ์เสาสัญญาณมือถือ ยึดของกลาง 357 ชิ้น มูลค่ากว่า 22.5 ล้านบาท

ตำรวจภาค 7 แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์เสาสัญญาณโทรเคลื่อนที่ ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชัน จำกัด มหาชน พร้อมของกลางผู้ต้องหา 5 คน 24 คดีของกลาง 357 ชิ้น 22,500,000 บาท

เมื่อที่ 7 ตุลาคม เวลา 10.00 น.ณ.ห้องโถงชั้น 1 อาคาร ภ.7 (แห่งใหม่) ถ.ขวาพระ อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐมพล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ร่วมแถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์เสาสัญญาณโทรเคลื่อนที่ ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชัน จำกัด มหาชน

ผลการปฏิบัติการสืบสวนขยายผล คดีลักอุปกรณ์เสาสัญญาณโทรศัพท์ เครือข่ายทรูมูฟ-ดีแทค ในพื้นที่ ตํารวจภูธรภาค 7ในห้วงเดือน สิงหาคม ถึง กันยายน 2567 ตํารวจภูธรภาค 7 ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุลักอุปกรณ์เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ เช่น Baseband Controller อุปกรณ์กระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งเป็นของผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เครือข่ายทรูมูฟ – ดีแทค ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี 11 แห่ง และ จังหวัดกาญจนบุรี 4 แห่ง ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบโทรคมนาคม ซึ่งส่งผลกระทบให้ประชาชน ในพื้นที่ผู้ใช้บริการเครือข่ายดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนในการติดต่อสื่อสาร

ต่อมา เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 ภ.จว.ราชบุรี ได้ทําการสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุ จํานวน 2 ราย คือ นายวัชรพล หรือ มอส อายุ 30 ปี ภูมิลําเนา อ.สวี จว.ชุมพร ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป ปัจจุบันประกอบอาชีพ เป็นผู้รับจ้างเหมางานจากบริษัทผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ และเป็นผู้ครอบครองรถยนต์กระบะ ที่ใช้ในการก่อเหตุ มีประวัติคดีอาญา ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ของ สภ.สวี จว.ชุมพรข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ของ สภ.สวี จว.ชุมพร ข้อหา ครองครองยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ของ สภ.บ้านในหูต จว.ชุมพร นายสามารถ หรือ มาด อายุ 34 ปี ภูมิลําเนา อ.เมืองกาญจนบุรี จว.กาญจนบุรีข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป เคยมีประวัติคดีอาญา ข้อหา ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ของ สภ.ลาดหญ้า จว.กาญจนบุรี

โดยนายวัชรพลฯ ได้นําอุปกรณ์ฯ ที่ลักมานําไปขายให้กับผู้รับซื้อ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ที่บ้านพัก ต.บางบัวทองซึ่งในห้วงเดือน กันยายน ถึง ตุลาคม 2567 ได้เกิดเหตุลักอุปกรณ์เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ของผู้ให้บริการสัญญาณ โทรศัพท์เครือข่ายทรูมูฟ – ดีแทค ในพื้นที่ จว.นครปฐม จํานวน 9 แห่ง โดยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ภ.จว.นครปฐม ได้สืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุ จํานวน 2 ราย คือนายณฐพัฒน์ หรือพัฒน์ อายุ 21 ปี ภูมิลําเนา อ.กระทุ่มแบน จว.สมุทรสาคร ปัจจุบันประกอบอาชีพเกี่ยวกับการรับจ้างติดตั้ง และรื้อถอนเสาสัญญาณโทรศัพท์ ข้อหา : ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน น.ส.รติมา หรือเจน อายุ 24 ปี ภูมิลําเนา อ.ดอนตูม จ นครปฐม ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป เป็นผู้ครอบครองรถยนต์เก๋งที่ใช้ในการก่อเหตุ ไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน

ผลการปฏิบัติการสืบสวนขยายผล คดีลักอุปกรณ์เสาสัญญาณโทรศัพท์ เครือข่ายทรูมูฟ-ดีแทค ในพื้นที่ ตํารวจภูธรภาค 7โดยนายณฐพัฒน์ฯ ได้นําอุปกรณ์ฯ ที่ลักมานําไปขายให้กับ นายพงษ์พัฒน์ หรือไอ ที่ประกาศรับซื้ออุปกรณ์ฯ ดังกล่าว ผ่านทาง Facebook และได้นําส่งอุปกรณ์ฯ ให้กับนายพงษ์พัฒน์ฯ ผ่านทางบริษัทขนส่งสินค้าเอกชน

ต่อมา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ฝ่ายสืบสวน ตํารวจภูธรภาค 7 ร่วมกับ ตํารวจภูธรภาค 3 ได้สืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหา จํานวน 1 ราย คือ
นายพงษ์พัฒน์ หรือไอ อายุ 35 ปี ภูมิลําเนา อ.ห้วยแถลง จว.นครราชสีมาเคยประกอบอาชีพเป็น วิศวกรของบริษัทอุปกรณ์สื่อสารข้อหา รับของโจร ไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อนโดยทําการตรวจค้นบ้านพัก และ IOSFarm ของนายพงษ์พัฒน์ฯ พบอุปกรณ์เสาสัญญาณโทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่นๆ จํานวนทั้งสิ้น 23 รายการ ซึ่งมีอุปกรณ์ฯ ที่ถูกลักมาจากในพื้นที่ จ.นครปฐม จํานวน 2 รายการ ในส่วนอุปกรณ์ฯ รายการอื่น อยู่ระหว่าง การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งอุปกรณ์ฯ ที่นายพงษ์พัฒน์ฯ รับซื้อจะนําส่งไปขายต่อยังผู้รับซื้อต่างประเทศ

สรุปการดําเนินการคดีลักอุปกรณ์เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ในพื้นที่ตํารวจภูธรภาค 7 จับกุมได้ 24 คดี ผู้ต้องหา 5 คนของกลาง รวมทั้งสิ้น 43 รายการ จํานวน 357 ชิ้นมูลค่าของกลางที่ตรวจยึด ราคาประมาณ 22,500,000 บาทตํารวจภูธรภาค 7 ตระหนักว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการใช้สัญญาณโทรศัพท์และ สัญญาณอินเตอร์เน็ต จึงได้ให้คําแนะนํากับบริษัทผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ เรื่องแนวทางการป้องกันเหตุ และการเพิ่มมาตรการรักษา ความปลอดภัยจุดติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ เช่น เพิ่มระบบป้องกัน การติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบสวนจับกุมผู้กระทําผิด เมื่อเกิดเหตุ และเป็นพยานหลักฐานในการดําเนินคดีต่อไป