ตำรวจเร่งไล่ล่า “สันติ” พบมีการเสพสารเสพติดก่อนก่อเหตุ ชี้ใครให้ที่พักพิง หลบหนี มีโทษทางกฎหมาย

เมื่อเวลา 14:00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช  ธรรมสุธีร์  ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 และ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า ประเด็น นายสันติ ที่ก่อเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ระบุว่า นายสันติ มีประวัติเคยลักทรัพย์ ในพื้นที่ สน.พหลโยธิน , สน.โชคชัย มีการหนีประกันศาลที่ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ และล่าสุด 27 ก.ย.ที่ สน.เตาปูน ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สนเตาปูน ได้ทำการเฝ้าติดตามพร้อมเข้าจับกุม ในขณะที่ตำรวจเข้าจับกุม นายสันติไหวตัวทัน ชักปืนลูกโม่ยิงต่อสู้กับตำรวจ หลังจากนั้นได้มีการกระโดดข้ามกำแพงจาก ซอยอินทามระ 29 แยก 3 (ที่พักของผู้ก่อเหตุ) มายังซอยอินทามระ 29 แยก 1 และเข้าไปหลบในบ้านของตัวประกันตอน 20:02 น. ซึ่งในบ้านมี 3 คน คือ แม่ และลูกชาย 2 คน ที่เป็นแพทย์ หลังจากนั้นกล้องวงจรปิดยังจับภาพได้ว่า นายสันติได้เคาะประตู และอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะขอน้ำดื่ม และหนีไปทางปล่องไฟ จากนั้นตำรวจได้ทำการล้อมไว้ทุกทิศทาง จนถึงเวลา 23:30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ภายในบ้านแล้วจึงเข้าไปช่วยตัวประกันออกมาได้อย่างปลอดภัย

     แต่ก็เกิดเหตุการซ้อนขึ้น เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปที่ห้องพักของผู้ก่อเหตุ และเจอกับภรรยาของผู้ก่อเหตุ ตัวภรรยารู้อยู่แล้วว่าสามีมีหมายจับ จึงเกิดอาการเครียดเพราะกลัวว่าตัวเองจะพ่วงคดีไปด้วย จึงได้ไปหยิบปืนภายในห้อง ที่มีการขโมยมาเมื่อ 27 ก.ย. ในพื้นที่ สน.เตาปูน หลังจากนั้นตัวภรรยาได้เข้าไปซ่อนตัวที่บ้านร้างจนกระจกบาดที่เท้า ก่อนจะมีการคุมตัวได้ที่แยกสุทธิสาร จากบาดแผลที่เกิดขึ้นที่เท้าของตัวภรรยา ในตอนแรก ตัวภรรยา ขอให้เรียกรถพยาบาล แต่เกิดความอาย จึงขอให้ตำรวจไปส่งที่บ้าน ในตอนนั้นเองตำรวจจึงเอาเสื้อให้คลุมมาคลุมหัวไว้ แต่ไม่ทันได้สังเกตว่าตัวของภรรยาผู้ก่อเหตุยังไม่ได้วางอาวุธปืน / จากนั้นภรรยาผู้ก่อเหตุจึงเอาอาวุธปืนจี้ตำรวจและบังคับให้ไปส่งที่บ้าน จ.อุบลราชธานี ตำรวจจึงขับรถไปตามทางเรื่อยๆ และมีการพูดคุยเจรจากันตลอดทางจากตำรวจที่เป็นคนอีสานด้วยกัน จนถึงประมาณ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ภรรยาของผู้ก่อเหตุเริ่มอารมณ์เย็นลง จึงขอไปพักที่บ้านป้าที่คลอง 3 ทางตำรวจจึงใช้เส้นทางเลี่ยงไปที่ อ.วังน้อย เพราะเส้นทางนั้นไม่มีบ้านคนและปลอดภัยกับประชาชนที่สุด / พอขับรถมาถึง อ.วังน้อย ภรรยาของผู้ก่อเหตุขอลงจากรถ และยังคงใช้อาวุธปืนจี้ตัวเอง ตำรวจใช้เวลาประมาณ 15 น. ในการเกลี้ยกล่อม จนภรรยาของผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว จากนั้นจึงได้นำตัวภรรยาของผู้ก่อเหตุไปทำแผลที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนจะมีการนำตัวมาที่ สน.บางซื่อเพื่อสอบปากคำ // จากการค้นตัวภรรยาผู้ก่อเหตุพบปืนขนาด .38 พร้อมกระสุนปืนครบ 6 นัด และยังพบไอซ์ 1.7 กรัม / จากการค้นห้องพักของผู้ก่อเหตุพบ ไอซ์จำนวนหนึ่ง (2.7 มิลลิกรัม) กระเป๋าชาแนลพร้อมของมีค่าอื่นๆ ที่มีการขโมยมา / ผลการตรวจร่างกายของภรรยาผู้ก่อเหตุพบมีสารเสพติดในร่างกาย จึงมีการแจ้ง 4 ข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่รับอนุญาต, ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดในครอบครอง และกักขังหน่วงเหนี่ยวเจ้าพนักงาน

     ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ จริงอย่างประชาสัมพันธ์ว่า หากผู้ใดให้ที่พัก หรือให้การช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือใครก็ตาม มีโทษทางกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ / ซึ่งในขณะนี้ที่ตัวผู้ก่อเหตุ มีปืน 2 กระบอก หากผู้ใดพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันที