เปิดปฏิบัติการทลายเว็บพนันวัยรุ่นสร้างตัว

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการทลายเว็บพนัน วัยรุ่นสร้างตัว

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ช่วยราชการ บก.ทล., ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ, พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดย พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.กิติภูมิ ศรีแผ้ว, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก, พ.ต.ต.ธีระพงษ์ คงเขียว, พ.ต.ต.นภชลัน เกิดเอี่ยม สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป.

ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ดังนี้

1. น.ส.ออนอุมาฯ

2. น.ส.กาญจนาฯ

3. นายเจษฎากรฯ

4. น.ส.ศิริตาฯ

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนัน (บาคาร่า, สลากกินรวบ) ในการเล่นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”

พร้อมของกลางและสิ่งของที่ถูกตรวจยึด

1. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้บริหารจัดการเว็บไซต์ จำนวน 5 รายการ

2. บัตรกดเงินสดจำนวน 52 ใบ

 สถานที่จับกุม

จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บ้านพักใน ม.5 ต.หนองแวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

จับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่บ้านพักใน ม.1 ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร

 จับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่บ้านพักใน ม.5 ต.หาดพันไกร อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร

จับกุมผู้ต้องหาที่ 4  ได้ที่หน้าคอนโด ม.10 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

พฤติการณ์ ตามนโยบายกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน จึงได้มีการสั่งการให้กองบังคับการปราบปราม สืบสวนจับกุมเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งจากข้อมูลเบาะเเสที่ได้รับเเจ้งและจากการตรวจสอบทราบว่า มีผู้เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มคนที่มีอายุช่วงวัยรุ่นถึงวัยทำงาน มีฐานะร่ำรวยผิดปกติภายในช่วงระยะเวลาไม่นาน และจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 50 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่ ม.ค.67-เม.ย.67) เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนพบพยานหลักฐานอื่นซึ่งน่าเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์จริง จึงนำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 ราย และขอหมายค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์จำนวน 6 จุด ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี, จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จึงนำกำลังลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าว โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ทั้ง 4 ราย จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหารับว่าได้กระทำความผิดจริง โดยเเต่ก่อนเคยเป็นเจ้ามือหวยและได้ผันตัวมาทำเว็บไซต์พนันออนไลน์ทุกรูปแบบ เช่น สล็อต, บาคาร่า, ไพ่โป๊กเกอร์, ฟุตบอล ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันทำในลักษณะเป็นขบวนการ เริ่มตั้งแต่คนจัดหาบัญชีม้า, คนทำเว็บพนัน (แอดมิน), คนทำบัญชี และคนฝาก-ถอนเงิน โดยแต่ละกลุ่มได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินในลักษณะแตกต่างกัน      

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงฝากเตือนภัยถึงกลุ่มที่ลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันในรูปแบบต่างๆ ทางภาครัฐ มีนโยบายปราบปรามและจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และถูกยึดทรัพย์ในที่สุด ทั้งนี้ผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายดังนี้

– พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478

มาตรา 4 ห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มี หรือเข้าเล่นพนันในการเล่นอันระบุไว้บัญชี ก. ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ประกอบด้วย มาตรา 12 ผู้ใดจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน

อัตราโทษ ระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน พ.ศ.2542

มาตรา 3 (9) ความผิดมูลฐาน หมายความว่า ความผิดเกี่ยวกับการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นการจัดให้มีการเล่นพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์” อัตราโทษ ระวางโทษ ปรับระหว่าง 20,000 – 2 00,000 บาท จำคุก 1-10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ อายุความ 15 ปี

มาตรา 9 ผู้ใดสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน อัตราโทษ ระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

หากเปิดบัญชีม้าจะมีผลกระทบที่ตามมา ทั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และอาจถูกนำไปใช้ในธุรกิจสีเทา ซึ่งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ดังนี้

...มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ..2566

มาตรา 9 ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเองหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด อัตราโทษ ระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 10  ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด

อัตราโทษ ระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2-5 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 2 แสน – 5 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ