ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สกัดจับแก๊งขนแรงงานต่างด้าว 18 คน อัดแน่นเต็มรถ 2 คัน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ ,พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.๒ บก.ทล. ได้สั่งการให้
ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.ต.ปานเทพ พจน์ธีระมนตรี สว.ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานี
ทำการจับกุม
1.นายเมธี ฯ อายุ 50 ปี (ขับขี่รถแวน)
2.นายณรงค์ ฯ หรือจ๋อ อายุ 68 ปี (ขับขี่รถเก๋ง)
3.ชาวบังคลาเทศ จำนวน 18 คน (เป็นผู้ชายทั้ง 18 คน)
โดยกล่าวหาว่า
1 “ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนกฎหมาย พ้นจากการจับกุม”
2 “เป็นบุคคลต่างด้าว เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” (ผ่านล่ามแปล)
พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์แวนยี่ห้อโตโยต้า สีเทา, รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว ที่ใช้บรรทุกขนบุคคลต่างด้าวมาขณะถูกจับกุม พร้อมโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อกับผู้จ้างวานให้ขนส่งต่างด้าว จับกุมหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเวียงสระ ทล.41 กม.228 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากนโยบาย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ที่มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง ปราบปรามขบวนการลักลอบขนส่งแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนอย่างจริงจัง โดย พ.ต.ต.ปานเทพ พจน์ธีระมนตรี สว.ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงในสังกัด ตั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ขณะตั้งจุดตรวจ เวลาประมาณ 21.00 น. พบรถแวน 4 ประตูอเนกประสงค์ สีเทา มีนายเมธี ฯเป็นผู้ขับขี่ (ทราบชื่อสกุลภายหลัง) มีลักษณะเหมือนบรรทุกสิ่งของหนักต้องสงสัยว่าจึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบบุคคลต่างด้าว (ทราบภายหลังเป็นชาวบังคลาเทศเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย) นั่งอัดกันมาภายในรถ จำนวน 15 คน ขณะที่ จนท.ชุดจับกุมกำลังตรวจสอบบุคคลต่างด้าวดังกล่าวข้างต้น ได้สังเกตเห็นว่ามีรถยนต์เก๋งคันหนึ่งจอดชิดขอบทางด้านซ้ายก่อนถึงจุดตรวจลักษณะมีพิรุธ จึงเข้าไปตรวจสอบพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีเขียว มีนาย ณรงค์ ฯ เป็นผู้ขับขี่ (ทราบชื่อสกุลภายหลัง) จนท.ชุดจับจึงทำการตรวจสอบภายในรถเก๋งคันดังกล่าวพบบุคคลต่างด้าว (ทราบภายหลังเป็นชาวบังคลาเทศเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย) นั่งอยู่ภายในรถจำนวน 3 คน
จากการสอบถามเบื้องต้น นายเมธี ฯ และนายณรงค์ ฯ รับสารภาพว่าได้ร่วมกันขนย้ายบุคคลต่างด้าวมาจาก กทม. เพื่อนำไปส่งที่ อ.รัตภูมิ จว.สงขลา และมีการขับรถตามหลังกันมา โดยนายเมธีฯ ได้รับบุคคลต่างด้าวมาจากบริเวณหน้าปั๊ม ปตท. ลาดกระบังซอย 38 กทม.จำนวน 18 คน ซึ่งมีชายไม่ทราบชื่อขับรถปิคอัพขนย้ายบุคคลต่างด้าวมาส่งที่หน้าปั๊ม ปตท. ดังกล่าว ต่อมานายเมธีฯได้นัดมหมายพบกับนายณรงค์ฯ เพื่อถ่ายบุคคลต่างด้าว ให้นายณรงค์ฯขนย้าย 3 คน ที่หน้าปั๊ม ปตท. พระราม 2โดยมีนาย ยาว ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงเป็นผู้ว่าจ้าง โดยติดต่อประสานงานทางโทรศัพท์ หรือทางไลน์ ได้รับค่าจ้างเมื่อขนย้ายบุคคคลต่างด้าวถึงปลายทางจำนวน 20,000 บาท โดยนายยาวจะโอนเข้าบัญชีธนาคารของนายเมธี ฯ หลังจากนายเมธีฯ ได้รับโอนเงินค่าจ้างก็จะแบ่งเงินค่าจ้างเป็นเงินสดให้นายณรงค์ฯ ผู้ร่วมขบวนการจำนวน 6,000 บาทตามที่ตกลงกันไว้ก่อนร่วมกันขนย้ายบุคคลต่างด้าว
โดยนายเมธีฯ รับว่าได้ทำมาแล้วจำนวน 10 ครั้ง รถที่ใช้ขนย้ายก็ใช้รถของนายเมธีฯ เอง ส่วนนายณรงค์ฯ รับว่าทำมาแล้ว 2 ครั้ง รถที่นายณรงค์ฯ ใช้ขนย้ายเป็นรถของน้องชายของนายณรงค์ฯ ที่ฝากให้นายณรงค์ฯ ช่วยดูแล จนท.ชุดจับแจ้งข้อกล่าวหาให้นายเมธีฯ และนายณรงค์ฯ ทราบ ผู้ถูกจับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิของตนเองดีแล้ว จึงได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.เวียงสระ ดำเนินคดีต่อไปรายละเอียดเพิ่มเติม จากการสอบถามแรงงานต่างด้าว (ผ่านล่ามแปล) ให้การว่า เดินทางมาจากบังคลาเทศ ไปที่เวียดนาม โดยพักในโรงแรมในเวียดนาม (โฮจิมินห์) 2 คืน และ เดินทางจากเวียดนามโดยรถตู้ไปยังกัมพูชา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมงถึงกัมพูชา และได้พักในโรงแรม ในกัมพูชาอีก 1 คืนจากกัมพูชาเดินทางมายังไทย โดยรถตู้เป็นยานพาหนะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง และได้เดินทางต่อตามช่องทางธรรมชาติอีกประมาณ 5 นาที(ข้ามคลอง)คาดว่าเป็น จ.สระแก้ว จนมาถึงฝั่งไทยมีรถกระบะ 2 คัน มารับช่วงต่อ ซึ่งใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงและได้เปลี่ยนรถอีกครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายของบุคคลต่างด้าว จากการสอบถาม คนละ 400,000 ตะกา คิดเป็นเงินไทย รวม 120,000 บาท ซึ่งการจ่าย ที่ต้นทาง คนละ 100,000 ตะกา คิดเป็นเงินไทย 30,600 บาท และ อีก 300,000 ตะกา จ่ายที่ปลายทางเมื่อถึงที่หมาย (มาเลเซีย)