รวบหญิงเนตรนภา แม่ค้าออนไลน์กิ๊ฟช็อป-เครื่องประดับ ไม่ส่งของ พบผู้เสียหาย 80 ราย
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วุฒิพันธ์ ผะอบทอง ,พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ผงบุญธรรม รอง สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 2 ร่วมกับนักเรียนอบรมหลักสูตร TOP G ดำเนินการ จับกุมนางสาวเนตรนภา หรือหญิง อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 319/2567 ลง 26 เมษายน 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” จับกุมหน้าบ้านพัก ซอยศิริ 3 หมู่ 8 ต.โพนข่า อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ
จากการตรวจสอบในระบบ ยังพบว่ามีหมายจับอีก 3 หมาย
1) ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ จ.148/67 ลง 24 เม.ย.67 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
2) ศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 297/64 ลง 4 พ.ย.64 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
3) ศาลอาญา ที่ 2824/2565 ลง 19 ธ.ค.65 “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
พฤติการณ์ ผู้ต้องหาได้ทำการลงประกาศขายสินค้าในแพลตฟอร์ม Facebook มาร์เก็ตเพลส ซึ่งคือเครื่องปั๊มนมในราคาประมาณ 3,000 บาท จากนั้น ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปซื้อและได้ทำการโอนเงินไปที่บัญชีชื่อ นางสาวเนตรนภา เมื่อโอนเงินไปแล้วปรากฏว่าผู้เสียหายไม่ได้รับสินค้าตามที่ได้ตกลงกับผู้ขาย และไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้อีกจึงเชื่อได้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินไปทำให้เกิดความเสียหาย จึงมาพบพนักงานสอบสวน สภ. คลองหลวง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจสอบผ่านรับสารสนเทศตำรวจ และ www.blacklistseller.com พบผู้เสียหายในหลายพื้นที่กว่า 80 ราย โดยมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 37,000 บาท
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับว่า ตนเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ สินค้าประเภทกิ๊ฟช็อปและเครื่องประดับ โดยจะโพสต์ขายของตามเพจเฟซบุ๊คต่างๆ แต่ว่าตนไม่มีสินค้าอยู่กับตัว ถ้ามีลูกค้าสั่งสินค้า ตนก็จะสั่งของจากที่อื่นเพื่อส่งให้ภายหลัง แต่ก็ไม่ได้ส่งให้ทุกครั้ง เพราะบางครั้งก็จะเอาเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวก่อน จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนภัยถึงการหลอกขายของออนไลน์ที่พบว่ามีสถิติเป็นอันดับ1ของภัยอออนไลน์ ซึ่งขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก อย่าเห็นแก่ของถูก มีสติ เพราะมิจฉาชีพที่เข้ามาหาทุกรูปแบบ ทุกช่องทาง กับสินค้าและการบริการที่นับวันมีความใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน ควรพิจารณาเลือกซื้อสินค้าและบริการจากแหล่ง ข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือและสามารถจับต้องสินค้าได้จริงเท่านั้น