กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม(บกป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบชก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.ธนศักดิ์
สว่างศรี, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา และ พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.จักรพันธ์ ใบพิมาย รอง สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.อาทิตย์ ศุภนคร รอง สว.(ป) กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายลำพูนฯ อายุ 40 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดตราด ที่ 113/2557 คดีหมายเลขดำที่ 1086/2555 คดีหมายเลขแดงที่ 1353/2556 ลงวันที่ 2 กันยายน 2557 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ และมีพฤติการณ์หลบหนีไม่มาศาล” จับกุมบริเวณริมถนนภายในซอยประชาสงเคราะห์ 45 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากวันที่ 4 มกราคม 2555 ช่วงเวลากลางวัน ผู้ต้องหาพร้อมกับเพื่อนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้เข้าไปติดต่อขอเข้าพัก ที่ห้องพักของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด เจ้าหน้าที่จึงได้ให้กุญแจกับผู้เข้าพักตามปกติ โดยจัดเตรียมตู้เชฟสำหรับเก็บสิ่งของมีค่าให้กับผู้เข้าพักทุกห้อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2555 ทางรีสอร์ท ได้รับแจ้งจากผู้เข้าพักซึ่งเป็นชาวต่างชาติว่าตู้เชฟ ถูกงัดทำลายสิ่งของมีค่าสูญหาย จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้ออกไปทำธุระข้างนอก ขณะที่นายลำพูนฯ(ผู้ต้องหา)พักอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว หลักจากที่ผู้เสียหายกลับมา ได้พบว่า ตู้เชฟที่เก็บทรัพย์สิน มีการงัดทำลาย และทรัพย์สินได้ถูกขโมยไป แต่ไม่พบตัวนาย ลำพูน ฯ แต่อย่างใด สำหรับทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป จำนวน 5 รายการดังนี้
1.เงินสดจำนวน 22,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทยเป็นเงิน จำนวน 1,000,000 บาท
2.เงินสดไทย จำนวน 15,000 บาท
3.เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 1เครื่อง ราคา 40,000 บาท
4.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน จำนวน 1 เครื่อง ราคา 20,000 บาท
5.เครื่องเล่นเกมส์ จำนวน 1 เครื่อง ราคา 8,000 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,087,000 บาท
ต่อมาผู้เสียหายชาวต่างชาติได้แจ้งความดำเนินคดี ไว้ที่ สภ.เมืองตราด ต่อมาเมื่อคดีขึ้นสู่ชั้นพิจารณาของศาล นายลำพูนฯ ไม่มาตามนัดของศาล กระทั่งวันที่ 2 กันยายน 2557 ศาลจังหวัดตราดจึงออกหมายจับ นายลำพูนฯ ผู้ต้องหาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตราด ได้ประสานความร่วมมือมายังเจ้าหน้าที่กองกำกับการ1 กองบังคับการปราบปราม (กก.1บก.ป.) เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องรายดังกล่าว กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตาม ผู้ต้องหามาโดยตลอด แต่เพราะด้วยนายลำพูนฯ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เปลี่ยนที่พักอาศัยเป็นประจำ ทำให้ยากต่อการติดตามจับกุมตัว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. ได้สืบสวนติดตามและ ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ต้องหาตามหมายจับอีกครั้ง จนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนี มาพักอาศัยในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จึงได้เฝ้าติดตามสังเกตพฤติกรรมของผู้ต้องหา ทราบว่าผู้ต้องหาได้ประกอบอาชีพขับวินมอเตอร์ไชค์และรับส่งอาหาร บริเวณ ถนนภายในซอยประชาสงเคราะห์ 45 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ก่อนจะพบนายลำพูนฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ขณะเดินอยู่ริมถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัว เป็นเจ้าพนักงานโดยแสดงบัตรประจำตัว ข้าราชการ และแสดงหมายจับให้นายลำพูน ฯทราบ ก่อนคุมตัวมาทำบันทึกที่กก.1 บก.ป. พร้อมกับเตรียมส่งให้ศาลจังหวัดตราด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การยอมรับตลอดข้อกล่าวหา