ตามนโยบายรัฐบาล สั่งการให้การเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะอย่างไร้รอยต่อในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ประธานอนุกรรมการด้านการสื่อสารองค์กรและการประชาสัมพันธ์ ขสมก. แจ้งว่า ขสมก. ได้ใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อให้บริการพี่น้องประชาชนที่คาดว่า เดินทางกลับบ้านโดยรถสาธารณะไม่ต่ำกว่า 70,000 คนต่อวัน ให้มีความสะดวก สบาย และปลอดภัยในการเดินทาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มรถโดยสารที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกับสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(บขส.) สถานีรถไฟ ท่าอากาศยานและท่าเรือ เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านและเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ตามนโยบาย “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” ของกระทรวงคมนาคม โดยได้ประสานสถานีรถ บขส. เพื่อให้รถประจำทางทั้ง 14 สาย สามารถเข้าไปส่งผู้โดยสารที่มีสัมภาระด้านใน สถานีรถ บขส. และมี. รับผู้โดยสารที่เดินทาง จากต่างจังหวัด ที่ด้านในสถานี บขส. ด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดเดินรถแอร์พอร์ตบัสเชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 6 เส้นทาง โดยเฉพาะ สาย A1 จะเป็นสายเชื่อมโยง ท่าอากาศยานดอนเมือง-สถานีขนส่งหมอชิต(บขส.) และ สถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสจตุจักร ส่วนสายอื่นๆ ได้แก่ สาย A2 ท่าอากาศยานดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สาย A3 ท่าอากาศยานดอนเมือง-สวนลุมพินี สาย A4 ท่าอากาศยานดอนเมือง-สนามหลวง สาย S1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-สนามหลวง และสาย 555 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-รังสิต ซึ่งเป็นระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อระบบอื่นให้ประชาชนมีความสะดวกสบายมากขึ้น
พล.ต.ท.ปิยะฯกล่าวว่า ทาง ขสมก.จัดเดินรถเมล์เพิ่มขึ้นช่วงสงกรานต์ เฉลี่ยวันละ 2,699 คัน จำนวน 16,764 เที่ยว เพื่อให้บริการทั่วถึงมากขึ้น และในโอกาสที่สงกรานต์ในประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของยูเนสโกและผลักดันให้สงกรานต์ไทยเป็นเฟสติวัลระดับโลกในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ขสมก. ได้ประสานกรุงเทพมหานคร ในการจัดรถเมล์สาธารณะในการเดินทางไปเล่นน้ำสงกรานต์ ณ จุดต่าง ๆ กว่า 118 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจุดเล่นน้ำสงกรานต์ที่สำคัญ ๆ จะมีรถเมล์ ขสมก. วิ่งผ่าน เพื่อแก้ปัญหาด้านที่จอดรถยนต์ไม่เพียงพอ และลดปัญหาด้านการจราจร อีกส่วนหนึ่งด้วย