เมื่อวันที่ 4 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 เม.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. นำชุดพยัคฆ์ลายเทพนครนำโดย พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.แลชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 721/2567 ลงวันที่ 2 เม.ย.67 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 107 (ร้านช่างวิทย์สยามประเวศ) ซอยลาดพร้าว 106 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร จับกุมตัวนายประวิทย์ หรือ “ช่างวิทย์ สยามประเวศ” อายุ 43 ปี ความผิดฐาน “มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง หลายรายการ อาทิ อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 สีขาว พร้อมซองหนังสีน้ำตาล จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 สีขาว พร้อมซองหนังเทียมสีดำ จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 สีขาว พร้อมซองผ้าสีดำ จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20 จำนวน 1 นัด, กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 9 นัด ฯลฯ.
การจับกุมครั้งนี้ชุดพยัคฆ์ร้ายเทพนครของ สืบนครบาลได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว หลังสืบทราบว่าเป็นที่พักปัจจุบันของนายประวิทย์ หรือ” ช่างวิทย์สยามประเวศ “ผลการตรวจค้น สามารถตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ อาวุธมีด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องหลายรายการ ประกอบกับเป็นช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์เพื่อกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย
สอบสวนนายประวิทย์ ให้การรับสารภาพว่า “ตนเดิมทีตนเคยเรียนช่างที่สถาบันแห่งหนึ่งย่านภูเขาทอง แต่ไม่จบ เป็นคนชอบศิลปะแต่เรียนไม่จบมีความสามารถในการสัก TATTOO แนวญี่ปุ่น จึงได้มาเปิดร้านสัก ทั้งนี้ ตนมีความชอบเรื่องอาวุธปืนเป็นการส่วนตัว จึงได้มีการสั่งซื้ออาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์ในราคากระบอกละ 5,000 ถึง 6,500 บาท เพื่อมาเก็บไว้ป้องกันตัว และโชว์ลูกค้าที่สนิทกันซึ่งมาใช้บริการสัก TATTOO ส่วนอาวุธมีดขนาดต่าง ๆ ที่ถูกตำรวจตรวจยึดได้ภายในห้องพักพร้อมกับอาวุธปืนนั้น ตนซื้อมาเก็บสะสมไว้เพื่อประดับห้องเพื่อความสวยงาม เบื้องต้นจึงนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า การซื้อขาย ครอบครอง และพกพาอาวุธปืน” ต้องขอใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากซื้อขายอาวุธปืนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ผู้ขายมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท หากประชาชนพบเห็นการซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์ หรือพบเห็นบุคคลที่ชอบพกพาอาวุธปืนออกมาในที่สาธาณะ ให้แจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.