จับรายวัน!!! แก๊งขนแรงงานซิ่งแหกด่านหนีคนละทิศละทาง สุดท้ายจนมุมพบแรงงานเถื่อนร่วม 100 คน
จากการสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาการแทน ผบ.ตร.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (ปป.) นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.สุรเดช เมฆนุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายสนธิกำลังบูรณาการเฝ้า ระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดตามแนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรีอย่างเข้มข้นขึ้นเป็น 2 เท่า
ล่าสุดเวลา 01.00 น. ของวันที่ 26 มี.ค.67 ขณะที่เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.ที่ 135 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้มเมือง(ตม.)เจ้าหน้าที่ ตร.ชุด ศปชก.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ตร.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6กก.2 บก.ทล.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ถ.สาย 323 ทองผาภูมิ-สังขละบุรี หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋ง 3 คัน และรถยนต์กระบะ 2 คัน รวม 5 คัน ขับตามกันมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า อ.เมืองกาญจนบุรี
เมื่อมาถึงด่านตรวจเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้คนขับหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฎว่าคนขับรถทั้ง 5 คัน ไม่ยอมหยุด และได้เยียบคันเร่งแหกด่านหลบหนีเลี้ยวขวาเข้าตัวอำเภอทองผาภูมิ 3 คัน เลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 323 สายทองผาภูมิ-ไทรโยค จำนวน 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงแบ่งกำลังกันออกติดตามไปอย่างกระชั้นชิดท่ามกลางความมืด
ระหว่างติดตามพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒฉ 194 กรุงเทพฯจอดทิ้งเอาไว้ภายในซอยทางเข้าวัดหนองแดง หมู่ที่ 1 ต. ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ส่วนคนขับอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบภายในรถพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มคันรถ รวม 13 คน เป็นชาย อายุระหว่าง 16-47 ปี
ส่วนรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กท.6319 เพชรบุรี และรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ฟรีด สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎง 5110 กรุงเทพฯ ถูกจอดทิ้งเอาไว้บริเวณสถานีวนวัฒนวิจัยทองผาภูมิ หมู่ 1 ต. ท่าขนุน อ. ทองผาภูมิ โดยคนขับรถยนต์ทั้ง 2 คันอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้เช่นกัน จากการตรวจสอบภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ยาริส สีขาว พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มคันรถ รวม 11 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 1 คน ทั้งหมดมีอายุระหว่าง 18-34 ปี สำหรับรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ฟรีด สีดำ พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนนั่งแออัดกันอยู่ภายใน จำนวน 17 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 9 คน อายุระหว่าง 18-54 ปี และนอกจากนี้ยังพบลูกๆของแรงงานที่นั่งแออัดมาด้วยกันอีก 4 คน รวม 21 คน
ในส่วนของรถยนต์กระบะที่หลบหนีไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 323 มุ่งหน้าไปทาง อ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งไปถึงบริเวณ หมู่ 1 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ รถเกิดเสียหลักลงข้างทางไม่สามารถหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายพลวัฒน์ วังสุข (คนขับ) อายุ 29 ปี ชาวหมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เอาไว้ได้ และจากการตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บห 2059 ราชบุรี พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มคันรถ จำนวน 18 คน เป็นชาย 11 คน หญิง 7 คน อายุระหว่าง 19-33 ปี และนอกจากนี้ยังพบลูกๆของแรงงานนั่งมาด้วยอีก 2 คน
สำหรับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน ฒร 9970 กทม.ที่หลบหนีการจับกุมมาทางเดียวกัน เจ้าหน้าที่ต้องไล่ติดตามมาไกลหลายสิบกิโลเมตร จนกระทั่งข้ามเขตมาถึงบริเวณท้องที่หมู่ 2 อ.ไทรโยค รถยนต์เกิดเสียหลักลงข้างทาง เจ้าหน้าที่ชุดติดตามสามารถจับกุมตัวนายหม่องซาอุ ไม่มีนามสกุล อายุ 24 ปี ชาวหมู่ 1 ต.ไล่โว่ อ.สังขลุรี จ.กาญจนบุรีเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบภายในรถพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดมาเต็มคันรถ จำนวน 20 คน เป็น ชาย 15 คน หญิง 5 คน ผู้ติดตาม 4 คน โดย 5 ใน 20 คนเป็นลูกๆของแรงงานที่พ่อแม่นำพามาด้วย
สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายที่โดยสารมากับรถยนต์ทั้ง 5 คันนั้น มีทั้งหมด จำนวน 85 ราย ในจำนวนนี้มีลูกๆของแรงงานที่พ่อแม่นำพาหลบหนีเข้ามาในไทยโดยผิดกฎหมาย จำนวน 14 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ให้การว่าต้องการเข้ามาทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย โดยต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าผู้นำพาหัวละ 10,000-30,000 บาท จะถูกหรือจะแพงขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละจังหวัดที่จะเดินทางไป
ขณะที่นายหม่องซาอุฯ ผู้ต้องหาที่ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน ฒร 9970 กรุงเทพฯหลบหนีการจับกุม ให้การว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนายโซ (ไม่มีนามสกุล)อาศัยอยู่ที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ให้ขับรถนำแรงงานต่างด้าวไปส่งที่ตัวอำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยจะได้ค่าจ้างเป็นรายหัว คนละ 500 แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน
ด้าน นายพลวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บห 2059 ราชบุรี หลบหนีให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากชายไม่ทราบชื่อให้นำแรงงานไปส่งในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเที่ยวๆละ 3,000-4,000 บาท หลังจากผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนที่จะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตม.ผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี กล่าวว่า จากนโยบายของผู้บังคับบัญชาข้างต้น สภ.สังขละบุรีได้สนธิกำลังกับหน้ายงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันจับกุมคดี พรบ.คนเข้าเมืองมาแล้วหลายคดี โดยช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะคณะเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปถึงบริเวณริมน้ำบ้านดงสัก หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กพ 3739 ราชบุรี จอดอยู่
จากการสังเกตพบมีกลุ่มบุคคลนั่งโดยสารอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ ผลปรากฏว่าผู้โดยสารทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 7 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 2 คน เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายสมจิตร อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรีที่เป็นคนขับเอาไว้ จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมรถยนต์ของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป