ตำรวจเมืองเถิน จ.ลำปาง ปิดป่าล่าสองพี่น้อง เช่ารถยนต์ขนยาบ้า จากเหนือ สู่เมืองกาญจน์ ทิ้งยาบ้า 5 ล้านเม็ด หลบหนี ล่าสุดพบสัญญาณโทรศัพท์อยู่ในพื้นที่ ป่าบ้านกุ่มเนิ้ง อ.เถิน
วันที่ 10 มีนาคม 67 ได้รับรายงานจากจังหวัดลำปาง ว่ากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 ชุดสืบสวน สภ.เวียงมอก ชุดสืบสวน สภ.แม่พริก ชุดสืบสวน สภ.เถิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเถิน กระจาย ยังคงปิดล้อมป่า รอบ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านห้วยเกาะหลวง บ้านสะพานหิน บ้านสะพานหินพัฒนา และบ้านกุ่มเนิ้งใต้ ต.แม่มอก อ.เถิน จากลำปาง เพื่อไล่ล่าจับกุมตัว นายสมจิตร อายุ 32 ปี และนายสันติ อายุ 34 ปี สองพี่น้อง
สืบเนื่องจาก ช่วงค่ำวันที่ 8 มีนาคม 67ที่ผ่านมา ทั้งสองคนได้ขับรถยนต์ โตโยต้ารุ่นฟอร์จูเนอร์สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ขฮ 7081 กทม.ซึ่งเป็นรถเช่า จากเชียงรายบรรทุกยาบ้ามาเต็มคันรถ แหกด่านตรวจบริเวณบ้านกุ่มเนิ้ง ต.แม่มอก อ.เถิน แล้วนำไปจอดทิ้งไว้ด้านหลังวัดห้วยเกาะหลวง ห่างจากด่านตรวจประมาณ 2 กม.จากการตรวจค้นภายในรถเจ้าหน้าที่พบยาบ้าบบรรจุในกระสอบจำนวน 20กระสอบ ยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด และยังพบรถยนต์กระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บน 5910 พะเยา ซึ่งเป็นรถนำทางมารับตัวคนขับรถเช่าที่ขนยาบ้า แล้วหลบหนีไปด้วยกัน ก่อนที่จะนำรถไปจอดทิ้งในป่าและพากันหลบหนี
จึงได้ตรวจยึดรถยนต์ทั้งสองคัน และยาบ้าทั้งหมดเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เวียงมอก กำลังเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังพร้อมด้วยอาวุธครบมือ ได้กระจายปิดล้อมป่า ตรวจตราตามเส้นทางระหว่างแม่มอก ไปยังอำเภอทุ่งเสลี่ยมของจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นเส้นทางพื้นที่ที่เชื่อมติดต่อกัน ทางผู้นำชุมชนได้มีการประกาศเสียงตามสาย ในช่วงนี้ให้ชาวบ้านงดเข้าป่า หาเก็บผักหวาน ไข่มดแดง ออกไปก่อนเนื่องจากเกรงอันตรายไม่ปลอดภัย และหากพบผู้ต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (9 มี.ค.67) เจ้าหน้าที่พบสัญญาณโทรศัพท์ของคนร้าย ในพื้นที่ป่ารอบๆ บ้านกุ่มเนิ้ง ห่างจากจุดที่ทิ้งรถยนต์ขนยาบ้า ประมาณ 4 กม. คาดว่าคนร้ายจะโทรศัพท์นัดแนะให้กลุ่มเครือข่ายมารับ กำลังเจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบทันที แต่ด้วยเป็นช่วงกลางคืนเกรงในเรื่องความปลอดภัย จึงได้ซุ่มเฝ้าริมถนนตรวจสอบรถยนต์ที่วิ่งผ่าน แต่ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด ซึ่งหากยาบ้าล็อตนี้ ส่งถึงปลายทางในเมืองหลวงจะมีราคา ประมาณ 250ล้านบาท
ซึ่งแนวทางการสอบสวน ทราบว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 67 ที่ผ่านมา สองพี่น้องนี้ ได้ไปเช่ารถยนต์คันที่บรรทุกยาบ้าในจังหวัดเชียงราย ทั้งหมด 7 วัน ค่าเช่าวันละ 2,500 บาท จ่ายค่าเช่าหมดแล้ว โดยอ้างว่าจะเช่าไปรับเพื่อนที่สนามบินเชียงรายท่องเที่ยวตามชายแดนฝั่งไทย และจะไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี ทางเจ้าของรถเช่า ได้ตรวจสอบ GPS ว่ารถยนต์ยังอยู่ในพื้นที่ตามที่คนเช่าได้แจ้งไว้ในสัญญาเช่ารถยนต์ แต่ผิดสังเกตุจะใช้ถนนสายรองโดยตลอด โดยพบว่าในวันที่6มีนาคม ได้ขับจากเชียงของ ใช้ถนนสายรอง เข้าพื้นที่พะเยา มุ่งหน้าเข้าถนนสายหลักพะเยา-ลำปาง เลี่ยงเข้าตัวอำเภองาว โดยไม่ได้ผ่านด่านตรวจยาเสพติดนาแก วกอ้อมด่านตรวจ เข้าลำปางทันที ก่อนที่จะไปจอดที่หน้าโรงเรียนบ้านวังพร้าว อ.เกาะคา จนถึงวันที่ 8 มีนาคม ทางเจ้าของรถเช่า สงสัยว่ารถอาจจะนำมาขายจอดทิ้งไว้ หรืออาจจะนำไปก่อเหตุผิดกฎหมาย จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย เพื่อเป็นหลักฐานเอาไว้ก่อนและได้รีบขับรถเดินทางมาลำปาง ตามที่รถยนต์เช่าของตนเองที่จอดทิ้งไว้ บ้านหลังหนึ่งหน้าโรงเรียนบ้านวังพร้าว จนเวลาเที่ยงวัน เช็ค GPS อีกครั้ง พบว่ารถยนต์เข้าพื้นที่ของอำเภอเถิน เลี้ยวไปตามถนนสายเถิน-แม่มอก ที่จะไปทะลุอำเภอทุ่งเสลี่ยม ของจังหวัดสุโขทัย จึงได้รีบประสานตำรวจสภ.เวียงมอก ตั้งด่านตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้แหกด่านตรวจจุดบ้านกุ่มเนิ้ง หลบหนีขับรถไปจอดด้านหลังวัดบ้านห้วยเกาะหลวง จนเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบพบยาบ้าเต็มคันรถ
หลังจากเกิดเหตุกำลังเจ้าหน้าที่ ได้กระจายกำลังกันตรวจค้นไล่ล่าตามจับกุมตัวสองพี่น้อง เครือข่ายยาบ้า แต่ยังไม่พบตัว คาดว่าทั้งสองคนยังคงหลบหนีในพื้นที่ ไม่ได้กินข้าวกินน้ำมาหลายวัน หากชาวบ้านพบผู้ต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมป่า ตั้งด่านตรวจรถยนต์ต้องสงสัย ที่คาดว่าจะมารับสองพี่น้องเพื่อหลบหนี และคาดว่าจะติดตามจับกุมตัวได้อย่างแน่นอนความคืบหน้า