รวบหนุ่มค้าสัตว์ป่าคุ้มครองออนไลน์ ยึดนากเล็บสั้น-ซากตัวนิ่ม-ตะพาบ ส่งกลับศูนย์อนุรักษ์
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร พ.ต.ท.กรกฎ โปชยะวณิช พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ, พ.ต.อ.อาวุธ อุดมรัตน์, พ.ต.อ.อภิฌาณ สวัสดิบุตร พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ร่วมกันจับกุมนายนันทวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ข้อกล่าวหา “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีสัตว์ป่าคุ้มครองและซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535” พร้อมด้วยของกลาง นากเล็บสั้น จำนวน 3 ตัว, ตะพาบ จำนวน 1 ตัว, ซากตัวนิ่ม จำนวน 2 ตัว, ซากตะพาบ จำนวน 8 ตัว จับกุมได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 40 หมู่ 2 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา
การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่ามีผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตทางอินเตอร์เน็ต พบว่ามีการโฆษณาหรือประกาศจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองรวมทั้งซากสัตว์ป่าคุ้มครองทางเฟสบุ๊คชื่อ “นันทวัฒน์ฯ” จากนั้นทำการสืบสวนล่อซื้อลูกนากเล็บสั้น จำนวน 2 ตัว ในราคา 9,000 บาท และนัดส่งมอบนากที่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 2 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ในวันที่ 19 ก.พ.
ต่อมาเวลาประมาณ 14.30 น. จึงร่วมกันออกเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. พบนายนันทวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ที่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว โดยยื่นส่งมอบลูกนากเล็บสั้นที่ติดต่อสั่งซื้อไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ขณะทำการล่อซื้อ
จากนั้นจึงขอเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักเพื่อตรวจสอบว่ายังมีสัตว์ป่าคุ้มครองหรือสิ่งผิดกฎหมายอย่างอื่นซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพักอีกหรือไม่ ผลการตรวจค้นพบนากเล็บสั้นอีก 1 ตัว และตะพาบ 1 ตัว รวมทั้งซากตะพาบน้ำ จำนวน 8 ตัว และซากตัวนิ่ม 2 ตัว อยู่ภายในบ้านพัก
สอบสวนนายนันทวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาให้การรับว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหานายนันทวัฒน์ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แปรงยาว ส่วนของกลางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) รับไปดูแลตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.วรวิทย์ ผบก.สปพ. ฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่ค้าหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองจะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หรืออธิบดีกรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามมาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกิน10 ปี ปรับ ไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562