พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีนโยบายให้ทำการกวาดล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียนั้น ได้สั่งการไปยังตำรวจไซเบอร์ทุกกองบังคับการให้ระดมกำลังสืบสวนจับกุมความผิดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 นำกำลังสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาโพสต์ขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ซึ่งพบทำมานานเกือบ 6 ปี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.3 ได้สืบสวนหาข่าว จนพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายเครื่องกระสุนปืน แม็กกาซีนปืน ปลอกลดแสง ซองปืน และอุปกรณ์เสริมแต่งอาวุธปืนจำนวนมาก ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ลุงกำนัน ลุงกำนัน” พบว่ามีการเปิดเพจดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จึงได้วางแผนจับกุม โดยให้สายลับสั่งซื้อเครื่องกระสุนผ่านทางเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลที่ระบุในเพจ พบข้อมูลผู้ครอบครอง ที่อยู่การจัดส่งพัสดุ และข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ตรงกับที่ผู้ขายส่งให้ หลังจากนั้นได้ทำหนังสือขอข้อมูลการจัดส่งพัสดุของนายจเรกับบริษัทขนส่ง พบว่าช่วงวันที่ 1 ม.ค.66 ถึง 15 ม.ค.67 มีการจัดส่งพัสดุจำนวนหลายร้อยรายการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าตรวจค้น
ล่าสุด วันที่ 2 ก.พ.67 เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 สั่งการตำรวจไซเบอร์ นำโดย พ.ต.ท.ภัทรเดช ภัทรบุตรเพชร รอง ผกก.1 บก.สอท.3 นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบ้านพักในหมู่ที่ 2 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบนายจเร และบิดา ผลการตรวจค้นพบของกลางจำนวนมากภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน ประกอบด้วย อาวุธปืนยาว BB GUN จำนวน 2 กระบอก , กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 750 นัด , กระสุนปืน ขนาด 7.65 จำนวน 50 นัด , กระสุนปืน ขนาด 380 จำนวน 50 นัด , กระสุนปืนขนาด 357 จำนวน 50 นัด , แม็กกาซีน ด้ามปืน ประกับรองลำกล้อง ปลอกลดแสง อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ พบแท็ปเล็ต โทรศัพท์มือถือ ใช้ในการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ในเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ลุงกำนัน ลุงกำนัน” รวมทั้งใช้ในการผูกบัญชีธนาคารอีกจำนวนหลายเครื่อง และสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 4 เล่ม
จากการสอบถาม นายจเรยอมรับว่าเป็นแอดมินเพจดังกล่าว และของกลางที่ตรวจพบเป็นของตนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนายจเร ในความผิดฐาน “จำหน่ายเครื่องกระสุนปืนโดยการค้า และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่ง สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ กล่าวว่า การซื้อขาย ครอบครอง และพกพาอาวุธปืน ต้องขอใบอนุญาตจากนายทะเบียน ให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากซื้อขายอาวุธปืนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์ มีความผิดฐาน “ซื้ออาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาท ส่วนผู้ขายอาวุธปืนออนไลน์ มีความผิดฐาน “จำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000 – 40,000 บาท