กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. และ พ.ต.ท. อำนวย วิชิตโสภณ สว.กก.4 บก.ปปป. และ ร.ต.อ.ถิรวัฒน์ ฟักประไพ รอง สว.(สอบสวน) กก.๔ บก.ปปป.
ร่วมกันจับกุม นางสาววิรัลพัชรฯ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ จ.1/2567 ลงวันที่ 10 มกราคม 2567 ความอาญา จับกุม บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2551 นางสาววิรัลพัชรฯ เป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลแห่งหนึ่ง ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนารายได้ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลการจัดเก็บรายได้ผลประโยชน์ เร่งรัดรายได้ทุกประเภทของเทศบาล รวมไปถึงภาษีโรงเรือน ที่ดิน และภาษีป้ายในพื้นที่เขตเทศบาล ได้ถูกไล่ออก ด้วยที่ออกใบเสร็จให้ประชาชนที่มาเสียภาษี แต่ไม่นำเงินเข้าบัญชีเทศบาล แต่กลับเบียดบังเอาเงินไปเป็นของตน กว่า 100 ครั้ง สูญเงินไปกว่า 3 แสนบาท แล้วหลบหนีไป อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และได้หลบหนีคดี
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจนพบว่า นางสาววิรัลพัชรฯ อดีตเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลบหนีซุกซ่อนอยู่กับสามีในจังหวัดกรุงเทพมหานคร มากว่า 15 ปี จึงได้นำชุดจับกุมสนับสนุนโดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ เขต 1 ร่วมกันบุกรวบถึงหน้าบ้าน เข้าแสดงหมาย ยืนยันตัวบุคคลชัดเจนแล้ว รับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจริง ก่อนนำส่ง ศาลอาญาคดีทุจริตภาครัฐ ภาค 1 จังหวัดสระบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. กล่าวว่า นางสาววิรัลพัชรฯ ได้นำเงินไป 110 ครั้ง ตั้งแต่หลักร้อย หลักหลายพัน ด้วยความชะล่าใจ ยักยอกไปสูงสุด 3 หมื่นบาทต่อครั้ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเงินภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน และภาษีป้ายของบริษัท และประชาชนที่ได้มาจากการประกอบกิจการอย่างสุจริต ซึ่งในห้วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ของทุกปี จะเป็นช่วงมีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวเพื่อนำมาพัฒนาประเทศเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมต่อไป การยักยอกเงินในส่วนนี้จึงไม่ส่งผลกระทบแค่ในระดับหน่วยงาน แต่ยังส่งผลต่อสวัสดิการและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย ในส่วนของภาษีโรงเรือนและภาษีที่ดิน (Building and Land Tax) คือภาษีที่เรียกเก็บจากอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เช่น กิจการหอพัก, โรงเรียน, ธนาคาร, โรงพยาบาล และสถานประกอบการต่าง ๆ โดยเจ้าของทรัพย์สินเองต้องเป็นผู้ยื่นเสียภาษีกับเทศบาลท้องที่ เว้นแต่จะเป็นที่อยู่อาศัยเอง และทรัพย์สินที่ถูกยกเว้นตามกฎหมายที่จะไม่ต้องเสียภาษีดังกล่าวนี้ เพราะฉะนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายที่ประกอบกิจการดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นต้องยื่นเสียภาษีให้ตรงห้วงเวลา โดยสามารถยื่นได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ไปรษณีย์, ผ่านตู้เอทีเอ็ม หรือแอพพลิเคชั่นธนาคาร ฯลฯ โดยข้อดีของการยื่นโดยไม่ใช้เงินสด ย่อมตัดช่องว่างในการยักยอกเงินของเจ้าหน้าที่ไปได้อีกทางหนึ่งด้วย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า ตนได้ทำไป เนื่องจากต้องเอาเงินมาหมุนใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ไม่สามารถหามาคืนได้ทันในห้วงที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ จึงได้เชิดเงินหลบหนีมาอยู่กับสามีจนถึงปัจจุบัน
