รวบหนุ่มใหญ่อ้างอดีตนายก หลอกลงทุนเหรียญ Baby Doge เสียหายกว่า 4 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.ปทักษ์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทาผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.เอนก บุญตา, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ รอง ผกก.4 บก.ป. ​เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายธนัชพงษ์ฯ (ขอปกปิดชื่อสกุลจริง) อายุ 57 ปี ตามหมายจับของศาล อาญามีนบุรี ที่ จ 1332/2566 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง”

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ต.หนองกุเลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พฤติการณ์ ก่อนจับกุมตัวผู้ต้องหา ผู้เสียหายได้รับการชักชวนจากผู้ต้องหานี้ ให้ร่วมลงทุนในเหรียญสกุลเงินดิจิตอลชื่อว่าเหรียญ “Baby Doge Zilla” หรือชื่อย่อว่า “BDZ” โดยอ้างว่าเหรียญสกุลเงินดิจิตอลดังกล่าวกำลังจะถูกนำเข้าซื้อขายในกระดานซื้อขายเหรียญสกุลเงินดิจิตอล (Exchange) ชั้นนำในต่างประเทศ และสามารถแลกเปลี่ยนกับเหรียญดิจิตอลสกุลอื่นๆ หรือเรียกว่าวิธีการ SWAP ผ่านเว็บไซต์ชื่อว่า “Pancake Swap” ชื่อ URL: https://pancakeswap.finance หากผู้เสียหายซื้อไว้มีกําไรแน่นอนไม่มีขาดทุน และยังอ้างอีกว่าเหรียญดังกล่าวมีผู้ใหญ่ คืออดีตนายก และคนในครอบครัว อักษรย่อ ท. เป็นคนคอยดูแลเหรียญอยู่ทั้งยังรับรองว่า หากเหรียญดังกล่าวไม่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้หรือเกิดปัญหาก็จะรับซื้อคืนอย่างแน่นอน เมื่อผู้เสียหายได้ยินดังนั้นจึงหลงเชื่อ จึงตัดสินใจร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา เป็นเงินรวมกันทั้งสิ้น 3,150,000 บาท

ต่อมาปรากฏว่าเหรียญดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่นได้จริงตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา อีกทั้งยังขอเงินคืนไม่ได้ ดังนั้นผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอก จึงเดินทางมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ให้ได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป จนกระทั้งศาลออกหมายจับผู้ต้องหา และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป.จับกุม ส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว อนึ่ง หลังจากจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว

ยังตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหานี้ มีหมายจับติดตัวอีก 2 หมายจับ ดังนี้คือ

1.หมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ 58/2565 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันจ่าย หรือโฆษณา ประกาศ แพร์ข่าว หรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงินในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหนายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงง่ายได้”
2.หมายจับของศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 161/2566 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์”
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและยังไม่เคยถูกจับ
ตามหมายมาก่อน ​

เตือนภัย การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียดการลงทุนให้ดีก่อคิดลงทุน ไม่เช่นนั้นท่านอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ