เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 31 ต.ค.66 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 สั่งการให้ พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 นำกำลังเข้าจับกุมนายสุวัฒน์ อายุ 21 ปี ชาว กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ” โดยจับกุมได้ที่บริเวณ หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในซอยพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร แยก 12 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (30 ต.ค.)
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 พ.ย.65 ผู้เสียหายพบโฆษณาบนหน้าเฟซบุ๊กใน ลักษณะเชิญชวนหารายได้พิเศษ เมื่อผู้เสียหายสนใจจึงสอบถาม โดยมิจฉาชีพแจ้งว่าเป็นงานดูคลิปบน YouTube เพื่อเพิ่มยอดวิว และงานกดหัวใจเพิ่มยอดรีวิวให้แอป shopee โดยให้ค่าคอมมิชชั่นตอบแทน รายได้เฉลี่ยสูงสุดถึง 500 บาทต่อวัน ผู้เสียหายสนใจจึงกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านลิงก์ที่มิจฉาชีพส่งให้
ต่อมาผู้เสียหายได้เริ่มทำภารกิจที่มิจฉาชีพมอบหมาย โดยติดต่อสื่อสารผ่านไลน์กลุ่ม ระหว่างทำภารกิจ มิจฉาชีพมีการเชิญบุคคลอื่นเข้ากลุ่มเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยครั้งแรกผู้เสียหายโอนเงินไปจำนวน 3 ครั้ง รวม 413 บาท และได้รับผลตอบแทนกลับมา 413 บาท จึงเชื่อว่าได้เงินจริง จนสุดท้ายโอนเงินไปทั้งสิ้น รวม 152,732 บาท เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงิน มิจฉาชีพอ้างว่า ต้องเสียค่าภาษีเพิ่มอีกจำนวน 56,434 บาท จึงจะสามารถทำรายการได้ ต่อมาผู้เสียหายเริ่มรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงได้แจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ thaipolice.com
ต่อมาวันที่ 30 ต.ค. เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังชุดสืบสวนร่วมกันลงพื้นที่ เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ จนสามารถนำหมายจับศาลอาญาเข้าควบคุมตัว นายสุวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ให้การเพียงว่าเคยเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ และยังมีความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวอีก 9 คดี รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเกือบ 2.6 ล้านบาท เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบ บก.สอท.1 เพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป