“ผู้ช่วยฯสมพงษ์” ทำงานจนวันสุดท้าย ทิ้งทวนก่อนถอดเครื่องแบบ นำกำลังลงพื้นที่ภาคใต้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ายานรก ยึดยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด อาวุธปืนอีกนับร้อยกระบอก จับผู้ต้องหาทั้งเสพและขายดำเนินคดีกว่าสามพันราย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่ ศูนย์ปฎิบัติการสานักงานตารวจแห่งชาติ จ.ยะลา พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ฯ ปฏิบัติราชการ บก.ตม.5, พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ สุขสวัสดิ์ รอง ผบก.ศพฐ.9, พ.ต.อ.ชยินธร สุคนธร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร, พ.ต.อ.กิตติ กองแสงศรี รอง ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ, พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.เสวก เอี่ยมมงคล ผกก.สภ.เสนา ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พ.ต.ท.กิตติธร นาคเกลี้ยง รอง ผกก.ตม.จว.น่าน ร่วมกันแถลงข่าวการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 – 9 (ครั้งที่ 10) โดยเน้นกระจายกำลังเข้าตรวจค้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 27-29 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาและยึดยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างไว้ได้จำนวนมาก
พล.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ให้ตร. ดำเนินการเชิงรุกในการปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และพล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. มีนโยบายให้ทุกหน่วยในสังกัด ปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกระดับ เพิ่มความเข้มในการทาลายเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยในระดับชุมชนที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนอย่างจริงจัง และให้สืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด ทั้งระดับรายย่อยและรายใหญ่ ที่มีความเชื่อมโยงหลายพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในครั้งนี้เป็นปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ครั้งที่ 10 เป้าหมายพื้นที่ 22 จังหวัด 375 สถานีตำรวจ โดยมีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จานวน 767 เครือข่าย และเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้น จำนวน 1,535 เป้าหมาย
พล.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวมจำนวน 3,143 คดี ผู้ต้องหา 3,212 ราย ในจำนวนนี้เป็รหมายจับจำนวน 123 ราย ของกลางเป็นยาบ้ากว่า 3.3 ล้านเม็ด,เฮโรอีน 207 กรัม , ไอซ์ 8.5 กิโลกรัม เคตามีน 55 กรัม และอาวุธปืน 173 กระบอก รวมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินของกลาง กว่า 13 ล้านบาท และทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องอีก 66 ล้านบาท รวมมูลค่าการตรวจยึดกว่า 80 ล้านบาท นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพื้นที่ดำเนินคดียัฝพื้นที่ที่เกิดเหตุ และนำส่ง บช.ปส. เพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป
“ผมได้สั่งการให้ตำรวจเน้นกดดันจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในชุมชนให้มากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ค้าในพื้นที่ชุมชมลดลง การเข้าถึงเพื่อซื้อยาเสพติดของผู้เสพลำบากยุ่งยากขึ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้เสพลดลง” พล.ต.อ.สมพงษ์ กล่าว และบอกว่า การกดดันส่งผลให้ราคายาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้ผู้เสพเข้าถึงยาเสพติดได้ยากมากยิ่งขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ยังได้ลงพื้นที่ตรวจการทำงานและมอบนโยบายในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งมอบถุงบำรุงขวัญจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร และสิ่งของ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่โดยกำชับให้ข้าราชการตำรวจในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนใต้ ทั้งนี้ยังได้เน้นย้ำให้กำลังพลปฎิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบด้วยความระมัดระวังขณะเดียวกันยังกำชับให้มีการฝึกซ้อมการใช้อาวุธปืนและการป้องกันตนเองโดยการสวมเสื้อเกราะและหมวกเหล็กก่อนลงพื้นที่ทุกครั้ง
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมพงษ์ ยังได้ประกอบพิธีอำลาหน่วยในโอกาสที่เกษียณราชการที่ ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตารวจแห่งชาติ ส่วนหน้า จ.ยะลา โดยมี พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 พร้อมด้วยนายตำรวจกองเกียรติยศ กำลังพลจาก หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานฯ และกำลังพลอื่นๆให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและสมเกียรติ หลังรับราชการด้วยความทุ่มเทมาตลอดชีวิตของการเป็นตำรวจที่สามารถคลี่คลายคดีดังมานับไม่ถ้วน