จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ส.ค.66 สภ.เกาะพะงัน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ท่อนล่าง บรรจุอยู่ในถุงขยะ ที่บริเวณบ่อขยะ หมู่ 4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาทราบว่าชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นของ นายเอ็ดวิน มิเกล อาร์เรต้า อาร์เตก้า อายุ 44 ปี สัญชาติโคลอมเบีย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่เกาะพะงัน ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอไปแล้วนั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญดังกล่าวโดยเร็ว เนื่องจากเป็นเหตุที่ประชาชนและสื่อมวลชน รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.ศรัญญู ชำราญราช ผบก.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี เร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าวโดยเร็ว
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้มีการนัดหมายกับ นายแดเนียล ซานโช่ อายุ 29 ปี สัญชาติสเปน ซึ่งมีความสนิทสนมกัน เพื่อมาเที่ยวที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยนายแดเนียลฯ เดินทางมาถึงประเทศไทยก่อนในวันที่ 31 ก.ค.66 และผู้ตายมาถึงประเทศไทยในวันที่ 1 ส.ค.66 ก่อนจะเดินทางไปพบกันที่เกาะพะงันในวันที่ 2 ส.ค.66 โดยที่ผู้ตายได้มีการจองโรงแรมสำหรับตนเองไว้แล้ว และนายแดเนียลฯ ได้จองห้องพักแยกไว้อีกที่หนึ่ง ก่อนที่นายแดเนียลฯ จะพาผู้ตายไปที่ห้องพักของตน และก่อเหตุฆาตกรรมภายในห้องดังกล่าว และได้หั่นศพออกเป็นหลายชิ้น ยัดใส่กระเป๋าเดินทางแบบสะพายข้าง และนำชิ้นส่วนไปทิ้งที่กลางทะเล ส่วนชิ้นส่วนร่างกายท่อนล่างนั้น ไม่สามารถนำใส่กระเป๋าได้ จึงได้แยกใส่ถุงดำและนำไปทิ้งที่บ่อขยะที่พบชิ้นส่วน
จากการรวบรวมพยานหลักฐานทำให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.66 นายแดเนียลฯ ได้มีการไปซื้อของเพื่อตระเตรียมการในการก่อเหตุ อาทิ มีดสับขนาด 8 นิ้ว, ถุงขยะขนาดใหญ่, น้ำยาล้างทำความสะอาด และถุงมือยาง ทำให้ทราบว่า มีการวางแผนที่จะก่อเหตุไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วย พฐ. ได้เข้าตรวจสอบที่ห้องพักของนายแดเนียลฯ พบว่า บริเวณห้องน้ำ ซิงค์ล้างจาน และตู้เย็น มีร่องรอยการทำความสะอาด บริเวณท่อน้ำทิ้งพบคราบเลือด เนื้อเยื่อ คราบไขมัน และเส้นขน คาดว่าเป็นของผู้ตาย จากพยานหลักฐานดังกล่าวทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินคดีกับนายแดเนียลฯ ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย โดยนายแดเนียลฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในส่วนของการติดตามชิ้นส่วนร่างกายของผู้ตายนั้น นายแดเนียลฯ ให้การว่ามีการแยกชิ้นส่วนศพออกเป็น 17 ชิ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ค้นพบชิ้นส่วนแล้วจำนวน 8 ชิ้น ยังเหลืออีก 9 ชิ้น ซึ่งเป็นส่วนของแขนขวา ขาซ้าย และลำตัวท่อนบน ที่ยังคงสูญหาย อยู่ระหว่างติดตามหาต่อไป ซึ่งหลังจากนี้จะร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตโคลอมเบีย ในการประสานงานกับพ่อแม่ของผู้ตาย เพื่อช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการแจ้งความคืบหน้าและการรับศพกลับต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งทำงานอย่างหนักเพื่อนำเอาความเชื่อมั่นของประชาชนกลับมา ซึ่งคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นได้กำชับเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ให้ดำเนินการโดยรอบคอบและครบถ้วน นอกจากนี้ยังได้ประสานงานร่วมกันกับสถานเอกอัครราชทูตโคลอมเบีย เพื่อประสานงานกับญาติของผู้เสียชีวิต เพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการตรวจยืนยันและรับศพกลับไปยังประเทศโคลอมเบียให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย