พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่าได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.บช.น. และพ.ต.ท.จักรี นารีผล, สว.กก.ดส.บช.น. นำกำลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ พม. เข้าตรวจค้นร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ในซอยสรงประภา 12 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ หลังมีเบาะแสลักลอบค้าประเวณีเด็กสาว
โดยสามารถช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ไว้ได้ ตลอดจนทำการจังกุม น.ส.นฤมล (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน พร้อมด้วยของกลาง ธนบัตรมูลค่า 1,000 บาทจำนวน 2 ใบ และบิลเงินสดค่าอาหาร และค่าบริการของร้าน
ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่า ร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า โดยจะใช้เด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี หากนั่งบริการทั่วไป ภายในร้านจะอยู่ที่ ชั่วโมงละ 240 บาท ชั่วโมงต่อไป 120 บาท ซึ่งเด็กจะได้รับส่วนแบ่ง 200 บาท ในชั่วโมงแรก และชั่วโมงถัดไปได้ 20 บ้าน
แต่หากต้องการบริการทางเพศ แขกจะต้องซื้อบริการทางเพศอยู่ที่ ครั้งละ 2,000 บาท โดยทางร้านจะหัก 500 บาทต่อครั้ง หากเด็กออกไปกับแขกเป็นเวลานาน จะถูกหักอีก 500 บาท ต่อ 1 ชั่วโมง ซึ่งเหยื่อแต่ละรายจะทำงานคนละ 3-4 เดือน ก่อนจะหาช่องทางหลบหนี จนนำมาสู่การได้รับเบาะแส ส่วนที่ยังต้องทนทำอยู่ เพราะเหยื่อหลายรายติดหนี้กับทางร้าน
ขณะที่เหยื่อที่เข้ามาทำงานที่ร้านแห่งนี้ จะถูกกักขังไม่ให้กลับบ้านต้องกินนอนที่ร้าน หากจะต้องออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ จะส่งคนเดินตามตลอดทำให้รู้สึกไม่ได้รับความปลอดภัย ส่วนตัวเจ้าของร้าน ยังพบว่ามีประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหาลักษณะนี้มาแล้ว หลังจากนี้ทางตำรวจจะคัดแยกเหยื่อ และประสาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาดูแลเด็ก และเยาวชนเหล่านี้อีกครั้ง
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ค้ามนุษย์โดยแสดงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการค้าประเวณีโดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจาร ซึ่งชายและหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป