เมื่อวันที่ 7 ก.พ.66 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต. ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รองผบช.ภ.7 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ (ชุมชนยั่งยืน) ในพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดโดยทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และคณะ เดินทางไปยัง ภ.จว.ร้อยเอ็ด โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมร่วมรับฟังการสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการนาคาพิทักษ์รักษ์ประชา ก่อนมอบสวัสดิการขวัญกำลังใจให้ตร.2นายที่ได้รับบาดเจ็บการจากเข้าระงับเหตุ ประกอบด้วย ร.ต.ท.วิจารณ์ แสนยะบุตร รองสว.ป.สภ.อาจสามารถ และด.ต.อุทิศ พร้อมสุข ผบ.หมู่ ป.สภ.เสลภูมิ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฎิบัติหน้าที่ ก่อนรับฟังบรรยายสรุปสถานภาพอาชญากรรม และการขับเคลื่อน งานป้องกันปราบปราม ติดตามความคืบหน้าโครงการชุมชนยั่งยืน(นาคาพิทักษ์รักษ์ประชา) พร้อมรับฟังสภาพปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน
จากนั้นได้ไป สภ.หัวโทน ตรวจเยี่ยมกำลังพล ตรวจเยี่ยมกำลังพล และตรวจคลังอาวุธ ดูการจัดเก็บและเบิกจ่ายอาวุธปืนของราชการ ให้เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการขับเคลื่อน“หัวโทนโมเดล” ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่มีกำลังพลไม่มากกว่า 40 นาย จากสภาพปัญหาสังคมที่พบว่ามีผู้ป่วยทางด้านจิตเวชจากสาเหตุต่างๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ชุมชน และมีเหตุความรุนแรงคลุ้มคลั่งที่เกิดขึ้นจากปัญหา ความเครียด การใช้สารเสพติด ซี่งในส่วนนี้ได้เน้นย้ำการป้องกันเหตุควบคู่กับการเข้าชุมชน ซึ่งพื้นที่นี้ถือเป็นชุมชนต้นแบบของการแก้ปัญหายาเสพติดแบบยั่งยืนเพราะการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้นำชุมชนและตำรวจทำให้ปัญหาผู้ป่วยจิตเวชที่มีสาเหตุมาจากการใช้ยาเสพติดเป็นเวลานานบีจำนวนลดน้อยลง อีกทั้งยังสามารถนำผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มสีแดงให้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกับชุมชนได้อย่างปกติสุข
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดควบคู่กับการแก้ไขปัญหา ตลอดจนการฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดให้คืนสู่สังคม ซึ่งจากการตรวจเยี่ยมครั้งนี่ได้เห็น ความคืบหน้าของการดำเนินการตามโครงการ ซึ่งมีแนวทางในการปฏิบัติอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามจากการตรวจเยี่ยมได้เห็นสภาพพื้นที่จริง โดยเน้นการควบคุมอาชญากรรมเชิงรุก นำแนวคิดการดำเนินงานชุมชนสัมพันธ์มาใช้แสวงหาความร่วมมือจากประชาชน และเครือข่าย ขณะเดียวกันข้ันตอนของการป้องกันอาชญากรรมในชุมชนต้องวิเคราะห์ปัญหา กับสภาพพื้นที่ของชุมชนที่แตกต่างกัน เพื่อการแก้ไขปัญหาตรงจุด สร้างความพึงพอใจของประชาชนในพื้นที่ ความเชื่อมั่นศรัทธา
นอกจากนี้กำชับการปฏิบัติในการต้ังจุดตรวจ จุดสกัด ให้เป็นไปตามผบ.ตร.สั่งการ “เน้นอุปกรณ์ ข้ันตอนที่สามารถตรวจสอบความโปร่งใสในการปฏิบัติงานได้ ซึ่ง ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับต้องลงไปดู เอาใจใส่ อีกทั้งเน้นย้ำฝึกทบทวนยุทธวิธีในเรื่องต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของลูกน้อง ให้มีความมั่นใจในการปฏิบัติ เพราะการเข้าเผชิญเหตุเป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดความสูญเสียได้ในเสี้ยววินาที ตลอดจนดูแลเรื่องขวัญกาลังใจของกาลังพล สิทธิประโยชน์ สวัสดิการต่างๆ ที่ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลลูกน้องคอยช่วยเหลือแก้ปัญหาทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัวตลอดจนเรื่องของครอบครัวโดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาหนี้สินการบำรุงขวัญและกำลังใจ ของผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานของเจ้าที่ตำรวจในการดูแลชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพ