ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนได้รับแจ้งถึงความเดือนร้อนจากประชาชนว่ามีคนร้ายแต่งเครื่องแบบเป็นเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีปลอมหลอกเหยื่อเสนอขายเครื่องจักรอุตสาหกรรมความเสียหาย 1.5 ล้านบาท เหตุที่กรมบังคับคดี บางขุนนนท์ กรุงเทพฯ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และความเสียหายต่อภาพลักษณ์เจ้าหน้าที่รัฐเป็นอย่างมาก
วันที่ 13 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 06.45 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.เฉลิมพงษ์ ธรรมมียะ รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3ฯ
ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.คมกริช เงินคุณด้วง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สัญญลักษณ์ สังขะภักดี สว.สส.ฯ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอาทิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ที่อยู่ 25/7 ม.2 ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงรายผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.13/2566 ลงวันที่ 10 มกราคม 2566
โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกง,แสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
พร้อมของกลาง จำนวน 14 รายการ คือ
1.เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีกากี จำนวน 1 ตัว
2.กางเกงขายาวสีกากี จำนวน 1 ตัว
3.เข็มขัดด้ายถักสีกากีหัวเข็มขัดโลหะสีทอง จำนวน 1 เส้น
4.อินทรธนูแบบอ่อน จำนวน 1 คู่
5.แพรแถบย่อของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จำนวน 1 ชิ้น
6.ป้ายชื่อ ชื่อนายธนพล ไพศาลธนวัฒน์ จำนวน 1 ชิ้น
7.รองเท้าหนังสีดำหุ้มส้น จำนวน 1 คู่
8.นาฬิกาข้อมือสีทอง จำนวน 1 เรือน
9.กระเป๋าถือหนังสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ
10.กนกคอหรือเข็มติดปกเสื้อ จำนวน 1 คู่
11.เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ จำนวน 1 ตัว
12.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง สีขาว จำนวน 1 เครื่อง
13.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อทีซีแอล สีดำ จำนวน 1 เครื่อง
14.เอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 แผ่น
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 437/61 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
ตรวจสอบหมายจับ พบมีหมายจับอื่นอีก 1 ฉบับ
1) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนท์บุรี ที่ 40/2565 ลงวันที่ 24 มกราคม 2565 ในความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการ แสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน “
พฤติการณ์การกระทำความผิดกล่าวคือ เมื่อเดือนกันยายน 2564 ผู้ต้องหาได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีหลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างว่าตนเองเป็นนายหน้า ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของโรงงานที่ต้องการจะขายเครื่องจักรอุตสาหกรรม มาเสนอขายเครื่องจักรอุตสาหกรรมให้กับผู้เสียหายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้นัดทำสัญญาซื้อขายและจ่ายเงินสด จำนวน 1,500,000 บาท ที่กรมบังคับคดี บางขุนนนท์ และเมื่อผู้เสียหายส่งมอบเงินให้ผู้ต้องหาแล้ว ผู้เสียหายได้ไปติดต่อที่โรงงาน ปรากฎว่าเจ้าของโรงงานไม่ทราบถึงการซื้อขายดังกล่าว และไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ จึงทราบว่าถูกผู้ต้องหาหลอกลวงเอาทรัพย์ไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบนครบาลได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาเช่าห้องพักอยู่ที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการซักถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาจะติดต่อเหยื่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นมีการพูดคุยกันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยผู้ต้องหาจะใช้ไลน์ชื่อ “ธนพล โจโจ้” ในการติดต่อกับผู้เสียหาย สร้างความน่าเชื่อถือโดยการบอกว่าตนเองเป็นเจ้าพนักงานกรมบังคับคดี รวมถึงการส่งรูปเอกสารต่างๆ จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ โดยผู้ต้องหาจะสวมใส่เครื่องแบบข้าราชการพลเรือน โดยที่ไม่ใช่ข้าราชการฯจริง และพาผู้เสียหายไปทำสัญญาซื้อขายที่กรมบังคับคดี แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และได้รับเงินสด จำนวน 1,500,000 บาท โดยที่นำเงินดังกล่าวไปให้ นายโต้ง ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งนายโต้ง เป็นผู้นำเอกสารสัญญาการซื้อขายเครื่องจักรมาให้ตนเพื่อไปทำสัญญาการซื้อขายกับผู้เสียหาย โดยที่ตนได้เงินส่วนแบ่ง จำนวน 200,000 บาท หลังจากได้เงินมาก็นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบางขุนนนท์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า หากใครถูกคนร้ายรายนี้ซึ่งปลอมเป็นเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีหลอกให้แจ้งมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. และขอเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติอย่างหลงเชื่อกลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยให้สอบถามมาที่เราถึงแม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.