เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) พ.ต.อ.ปัญญา กุลไทย ผกก.ฯ พ.ต.ท.กฤษตฤณ นิระภัย พ.ต.ท.นพรัตน์ บุญถนอม รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ต.ภาส อัยยวร พ.ต.ต.หญิงชาดา เสสะเวช สว.ฯและเจ้าหน้าที่ชุดศปจร.น. แถลงจับกุมนายธงชัย เนตรแก้ว อายุ 55 ปี พร้อมของรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซีอาร์วี สีขาว 2 คัน ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชห-3363 กรุงเทพมหานคร อยู่ในบ้านแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี, นายสารัตน์ จาดบันเทิง อายุ 36 ปี พร้อมด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรล่า ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 กก 7649 กรุงเทพมหานคร ภายหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี, น.ส.อิศราวดี แสนสวาท อายุ 40 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ สีขาว ติดป้ายทะเบียน ฆฎ-1373 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บริรังสิต-บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี และนายชัชศรันย์ เจริญไทย พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อมิตซูมิชิ รุ่นไตรตัน สีดำ ติดป้ายทะเบียน ฆศ-7358 กรุงเทพมหานคร จับได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ.คูคต จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. สั่งการให้ จับกุมรกรณีผู้ใช้เอกสารปลอมสวมกับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด จากการลงพื้นที่ตรวจสอบขอหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นพื้นที่ ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พบนายธงชัย พร้อมของรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีขาว จำนวน 2 คัน ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชห-3363 กรุงเทพมหานคร รถแฝดเหมือนกันทั้งสองคัน จากการสอบถามคันที่จอดในบ้านได้เอาป้ายทะเบียนรถคันหนึ่งสวมให้รถยี่ห้อและรุ่นเดียวกันที่รับจำนำมาใช้ในราคา 200,000 บาท สาเหตุที่สวมทะเบียนคันเดียวกันเพื่อให้ภรรยาใช้อีกคันเท่านั้นไม่ได้มีการใช้กระทำความผิดแต่อย่างใด ซึ่งแผ่นเสียภาษีไม่ตรงกับทะเบียนที่นำมาสวม เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.น. ได้จับกุมนายสารัตน์ พร้อมด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรล่า ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 กก 7649 กรุงเทพมหานคร ที่มีผู้เสียหายทำเต็นรถได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อปี พ.ศ.2555 หลังทำการซื้อขายรถ จนรถคันดังกล่าวถูกขโมยไป แต่รถถูกขายต่อไปจนกระทั่งจับกุมได้ดังกล่าว จากการสอบสวนทราบว่า นายสารัตน์ รับซื้อรถจำนำมาในราคา 80,000 บาท มา 2 ปี ใช้ในชีวิต จับนำส่ง สภ.ไทรน้อย ดำเนินคดีข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” ซึ่งรู้สึกกีใจมากที่ได้ของคืนรถหายไป 10 ปีที่แล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.น. ยังได้ขยายผลจับกุมรถยนต์ที่ใช้เอกสารปลอม อีกจำนวน 3 คัน ขาดไฟแนนช์สวมทะเบียนปลอม ประกอบด้วยรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์สีเทา ติดป้ายทะเบียน 2 กง -6759 กรุงเทพฯ นำส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองปทุมธานี, รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ สีขาว ติดป้ายทะเบียน ฆฎ-1373 กรุงเทพฯ นำส่งดำเนินคดีที่ สภ.ปากคลองรังสิต, รถยนต์ยี่ห้อมิตซูมิชิ รุ่นไตรตัน สีดำ ติดป้ายทะเบียน ฆศ-7358 กรุงเทพมหานคร นำส่งดำเนินคดีที่ สภ.คูคต” รองผบช.น. กล่าว
ด้านพล.ต.ต.นิตินันท์ กล่าวว่า ฝากประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในการใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จะต้องใช้แผ่นป้ายทะเบียนที่ออกจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น หากพบการใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม รวมถึงแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอมมีความผิดตามกฎหมายอาญาเข้าข่ายความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมมีโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท