ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย. ขยายผลทลายขบวนการผลิตยาน้ำสมุนไพรเถื่อนผสมสเตียรอยด์ และผู้ขายยาสเตียรอยด์เถื่อน เฟส 3

วันที่ 29 สิงหาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปอท. รรท.รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา โดยนายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานกรณีการขยายผลการจับกุมการทลายแหล่งผลิตน้ำสมุนไพร ผสมสเตียรอยด์ และแหล่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่ได้มาตรฐาน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 โดยตรวจยึดของกลาง 49 รายการ


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ร่วมกันกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)นำหมายค้นศาลจังหวัดพล เข้าตรวจคันสถานที่ผลิตและเก็บอาหารและผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดกฎหมายในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 4 จุด ผู้ต้องหา 4 คน โดยพบของกลางเป็นน้ำสมุนไพร กว่า 26,000 ขวด, ยาเม็ดในกลุ่มสเตียรอยด์ จำนวนกว่า 2,092,000 เม็ด, ยาเม็ดแก้ปวดไม่มีทะเบียน จำนวนกว่า 2,229,000 เม็ด ยาเม็ดแก้ แพ้ จำนวนกว่า 5,000 เม็ด พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์การผลิตจำนวนมากส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี

ต่อมาในวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงแหล่งจำหน่ายยาสเตียรอยด์ และผู้ผลิตน้ำสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ จำนวน 2 โรงงาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำหมายค้นของศาลจังหวัดพลและศาลแขวงระยอง เข้าตรวจค้นพื้นที่ จังหวัด ขอนแก่น และจังหวัดระยอง จำนวน 6 จุด ผู้ต้องหา 6 คน โดยพบของกลางน้ำสมุนไพรบรรจุขวดจำนวน 2,600 ขวด , อุปกรณ์การผลิต และพยานหลักฐานอื่นๆ ในคดีจึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี แม้มีการกวดขัน จับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางสืบสวนยังพบว่ามีการลักลอบขายน้ำสมุนไพรผสม เสตียรอยด์ในแพลตฟอร์มออนไลน์ และได้รับการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน มิ.ย. 2565 พบว่ามีประชาชนบริโภคยากษัยเส้น ตราปู่แดง แล้วได้รับผลข้างเคียงจนเกิดภาวะโรคหัวกระดูกสะโพกขาดเลือด(Avascular necrosis) และต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพื้นที่ จ.ระนอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบถึงแหล่งผลิต และจำหน่ายน้ำสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพล ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจค้นพื้นที่จังหวัด จำนวน 2 จุด ดังนี้

  1. อาคารเลขที่ 3 หมู่ 1 ต.แวงใหญ่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พบ นางนภารัตน์ (สงวนนามสกุล) พบเครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อปู่แดง, เครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อเทียนทองคู่, เครื่องดื่มสมุนไพรยี่ห้อนวโกลด์, เครื่องดื่มสมุนไพรตรางามดี และยาเม็ดกลุ่มเสดียรอยด์ พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มผสมสมุนไพรจำนวน 33 รายการ
  2. อาคารเลขที่ 94 หมู่ 2 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พบ น.ส.สุนิสา (สงวนนามสกุล) พบ
    องดื่มสมุนไพรยี่ห้อช้างทอง และและยาเม็ดกลุ่มเสตียรอยด์พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผ
    ผสมสมุนไพร จำนวน 14 รายการ
    โดยทั้ง 2 จุด พบของกลางน้ำสมุนไพรบรรจุขวด จำนวน 725 ขวด, อุปกรณ์การผลิต, ยาเม็ดกลุ่มเสตียรอยด์ จำนวนกว่า 14,000 เม็ด และพยานหลักฐานอื่นๆ ในคดีโดย นางนภารัตน์ฯ รับว่าตนเองเป็นผู้ซื้อยาสเตียรอยด์มาจาก .ส.กนกลักษณ์ฯ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเจ้าหน้าที่ดำรวจเคยเข้าตรวจคัน ในพื้นที่ อ.แวง
    ใหญ่ จ.ขอนแก่น ก่อนหน้านี้แล้วนำมาผสมน้ำสมุนไพรก่อนนำไปจำหน่าย ส่วน น.ส.สุนิสาฯ รับว่าน้ำสมุนไพรดังกล่าวตนมีไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลู กค้าจริง จึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4
    บก.ปคบ.ดำเนินคดี เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม
  3. พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ฐาน “ผลิตและจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ เป็นอาหารที่มีสิ่งที่น่าจะ
    เป็นอันตรายแก่สุขภาพเจือปนอยู่ด้วย” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำ
    ทั้งปรับ
  4. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  5. พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562
    -ฐาน “ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม” ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีและปรับไม่เกินสามแสนบาท,
    ฐาน “ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ” ระวาง โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ฐาน “ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกิน
    สามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    -ฐาน “โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือคุณประโยชน์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นพ.สุรโชค ด่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่าปัญหาสเตียรอยด์ ที่คุกคามสุขภาพคนไทยเป็นเวลานาน เป็นเพราะสรรพคุณของสเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและกดภูมิต้านทานของร่างกาย สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้ลักลอบนำไปใส่ในยาชุดหรือ นำไปผสมกับสมุนไพรขายในรูปแบบต่างๆ ทั้งยาลูกกลอน ยาแผนโบราณ ยาประดง ยาผงสมุนไพร ยากษัยเส้นโดยเหยื่อส่วนใหญ่มักเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ที่หาซื้อยากินเอง ใช้กลยุทธ์กล่าวอ้างเป็นสมุนไพรปลอดภัยใช้รักษาสารพัดโรค ทั้งกระดูกทับเส้น ปลายประสาทอักเสบ เหน็บชา เก๊าห์ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดข้อ ปวดเข่า

อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น เมื่อทานยาจะเห็นผลระยะแรกๆ แต่หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติที่สังเกตได้ตั้งแต่มีใบหน้ากลมอูมเหมือนพระจันทร์ มีโหนกที่แก้ม มีหนอกที่คอ ตัวบวมเริ่มมีไตวาย ถ้าหยุดยากะทันหันจะทำให้เกิดภาวะช็อกได้ “สเตียรอยด์” จึงเป็น “ยาควบคุมพิเศษ” ร้านยาขายให้ได้เฉพาะผู้ป่วยที่มีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น จึงขอเตือนผู้บริโภคก่อนซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพใดๆ ควรตรวจสอบข้อมูลอนุญาตทางเว็บไซต์ อย. www.fda. moph.go.th ก่อนทุกครั้ง ทั้งนี้หากพบแหล่งผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายหรืออาจไม่ปลอดภัยในการบริโภค ขอให้แจ้งเบาะแสร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. โทร. 1556 อีเมล์ [email protected] หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ


พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปลบ. ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรและยามารับประทานเพื่อรักษาโรค ควรเลือกซื้อจากร้านขายยาหรือผู้ที่ได้รับอนุญาตขายผลิตภัณฑ์สมุนพร และขอเตือนผู้ที่ลักลอบผลิด และขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม หรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันทีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลและกวาดล้างต่อไป หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะท่านกำลังทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย เกิดผลกระทบกับร่างกายและเสียโอกาสได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ทั้งนี้ากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค