“ผบก. ปส.4” นำทีมสะกดรอย รวบ 7 ผตห. ขบวนการค้ายาฯ พบไอซ์ 14 กระสอบ หนัก 631 กก.

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป.)และผู้อำนวยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.ตร.)ได้เปิดเผยว่า จากนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้กำชับนโยบายเร่งรัดการสืบสวนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่องนั้น ซึ่งวันนี้ ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. ว่าเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจทางหลวง, เจ้าหน้าที่ทัพเรือภาคที่ 2

  1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 14,กระสอบ น้ำหนักประมาณ  631 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะบรรทุกรถยนต์ 2.รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน 3. รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน 4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง  5. เงินสด จำนวน 240 บาท

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยไม่ได้ รับอนุญาต” สถานที่จับกุม บริเวณริมทางหลวงสาย 4 ตำบลโคกทราย อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ต่อเนื่อง บริเวณด่านตรวจตำรวจทางหลวงพรุพ้อ ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และ ริมถนนเพชรเกษม ขาล่อง ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลของนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนกระทั่งวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 พบว่า นายแม็ง หรือนายนครินทร์ เป็นนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีการลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ภาคกลางไปส่งให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิชซูบิชิ และจะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทำหน้าที่เป็นรถนำทางเพื่อตรวจการณ์การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ทำการสืบสวน เฝ้าติดตามรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 41 ตั้งแต่บริเวณรอยต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง จนถึงจุดตรวจทางหลวงรัตภูมิ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย(คันที่ 1) ขับผ่านแยกป่าพะยอมอำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง มุ่งหน้าลงภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้     จัดกำลังสะกดรอยติดตาม ถัดมาอีกประมาณ 10 นาที พบเห็นรถยนต์ต้องสงสัย (คันที่2) ขับมุ่งหน้าลงภาคใต้ ตามมาในทิศทางเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดกำลังสะกดรอยติดตาม และอีก 5 นาทีถัดมา พบรถยนต์ต้องสงสัย (คันที่3) ขับตามมาเป็นคันสุดท้าย ลักษณะเหมือนบรรทุกสิ่งของมาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังสะกดรอยติดตามและได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ   จังหวัดสงขลา เพื่อตั้งด่านตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว จากการสะกดรอยติดตาม พบรถยนต์ต้องสงสัย(คันที่ 1) ขับผ่านด่านตรวจ ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตั้งด่านตรวจ ห่างกันประมาณ 10 นาที รถยนต์  ต้องสงสัย (คันที่ 2) ขับเข้าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ จึงเรียกตรวจค้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 2 ตรวจค้น ปรากฏว่ารถยนต์กระบะต้องสงสัย (คันที่3)  ซึ่งขับตามมาเป็นคันที่ 3 ห่างกันประมาณ 5 นาที ได้จอดเข้าข้างทางก่อนถึงด่านตรวจประมาณ 2.4 กิโลกรัม ในพื้นที่ตำบลโคกทราย อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ท่าทางมีพิรุธ จากพฤติการณ์ดังกล่าว เชื่อว่ารถต้องสงสัย     คันที่ 2 อาจแจ้งให้ทราบว่า ด้านหน้ามีด่านตรวจ ประกอบกับรถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 1 ซึ่งผ่านด่านไป       ก่อนแล้วได้เร่งความเร็ว ในลักษณะรู้ว่ารถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 2 และรถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 3 ถูกตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 3

ผลการตรวจค้นพบนายลุกมัน เป็นผู้ขับขี่, นางสาววนิดา นั่งหน้าข้างคนขับ และนายแวแม นั่งเบาะหลัง ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดเป็นยาเสพติด    ให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 631 กิโลกรัม สอบถามนายลุกมัน รับสารภาพว่า นายนครินทร์ ว่าจ้างให้ขับรถบรรทุกยาเสพติด จากอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม จะไปส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ที่ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มาด้วยกัน 3 คัน โดยมีนายมะเปาซี และนายนครินทร์ ทำหน้าที่ขับรถนำคันที่ 1 และ นายดากี และนายอาลาดิง ทำหน้าที่ขับรถนำคันที่ 2 โดยนายลุกมัน ติดต่อสื่อสารสอบถามเส้นทางกับรถนำคันที่ 2 กับนายดากี ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ โดยจะเปิดลำโพงโทรศัพท์เพื่อให้ทั้ง 3 คน ในรถนายลุกมัน ได้ยินพร้อมกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 3 ได้แจ้งผลการตรวจค้น ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำด่านตรวจ และให้ทำการตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 2 จากกการตรวจค้นทราบชื่อผู้ขับขี่ คือนายอาลาดิง และนายดากี นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์   ของนายดากี พบข้อมูลมีการติดต่อกับนายลุกมัน  ผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์

จากการสอบถามนายดากี ยอมรับว่า  ทำหน้าที่ขับรถนำเพื่อสำรวจการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่เป็นคันที่ 2 ตามคำสั่งของนายนครินทร์ ซึ่งขับรถนำเป็นคันที่ 1 โดยนายดากี ติดต่อแจ้งเส้นทางกับนายลุกมันและให้นายอาลาดิง ติดต่อแจ้งเส้นทางกับนายนครินทร์ ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ โดยเปิดลำโพงโทรศัพท์เพื่อได้ทราบข้อมูลเส้นทางจากทั้ง 2 คัน จากพฤติการณ์ดังกล่าว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสะกดรอยที่ติดตามรถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 1 ได้ทำการตรวจค้นและจับกุมรถยนต์ต้องสงสัยคันที่ 1 ได้ที่บริเวณแยกควนลัง ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา        

ผลการตรวจค้นพบนายมะเปาซี เป็นผู้ขับขี่ โดยมีนายนครินทร์ นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ สอบถามนายนครินทร์ รับว่าทำหน้าที่รถนำคันที่ 1 โดยสลับกันขับกับนายมะเปาซี ตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์นายนครินทร์ พบว่ามีการติดต่อกับนายอาลาดิง ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์จริง จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายลุกมัน,นางสาวนิดา,นายแวแม, นายดากี, นายอาราดิง,นายมะเปาซี และนายนครินทร์ “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” จากนั้นนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ดำเนินคดี พร้อมทั้งได้กำชับให้สืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป